อยากดูดวงฟรีๆ มาที่นี่ มหาหมอดูดอทคอม

ขณะนี้มีคน Online พร้อมกับคุณอยู่  552 คน ::: 

 
  พระอาจารย์ผมเอง
  พจนานุกรม ไทย<>บาลี
  ท่องขุมนรก
  ภาพอศุภะ เพื่อปลงสังขาร 
  ธรรมโซน dhama zone
  พ่อ-แม่บุพการีที่ยากจะทดแทน

  ภาพปริศนาธรรม
  กระดานสนทนาธรรม
  สารพัดคาถาอาคม (ศักดิ์สิทธิ์)
  ดาวน์โหลดธรรมะ
  พุทธประวัติ (ภาพสวยงาม)
 
  เว็บชาวพุทธยุคใหม่
  พลังจิต เว็บทางจิต
  ชีวิตสดใสด้วยธรรมะ
  ศากยบุตร
  คาถาธรรมบท (พุทธพจน์)
  พระไทยดอทเน็ต
  พระอาจารย์ต่างๆ
  วัดเกาะ
  แม่กองธรรมสนามหลวง
  ห้องสมุดธรรมะ
  สุตตันตปิฎก
  อภิธรรมปิฎก
  ลานธรรมเสวนา
  หอมรดกไทย
  สมาคมคนน่ารัก
  แจกซีดีธรรมะฟรี!
  ศาลาธรรม
  บ้านธรรมะ
  น่ากลัวมากๆ น่ากลัวอย่า!คลิก
  สำนักงานพุทธศาสนาฯ
  ศูนย์พิทักษ์พระพุทธฯ
  มจร. หนองคาย (มหาจุฬาฯ)
  ศึกษาภาษาบาลี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

 
 
 
 
 
 
 
   

(ธรรมบท พุทธพจน์ 3 ภาษา คือ บาลี ไทย อังฤกษ)
[คลิกที่นี่เพื่ออ่านพุทธพจน์ 3 ภาษา]
 
(พุทธพจน์ภาษาไทย)
 พุทธสุภาษิต จัดเรียงตามหมวด
หมวดที่

ว่าด้วยเรื่อง

หมวดที่
ว่าด้วยเรื่อง
หมวดที่
ว่าด้วยเรื่อง
1
ธรรมะเบื้องต้น
12
มิตร
23
ศรัทธา
2
บุคคล
13
คบหา
24
บุญ
3
การศึกษา
14
สร้างตัว
25
ความสุข
4
วาจา
15
การปกครอง
26
ธรรม
5
อดทน
16
สามัคคี
27
กรรม
6
ความเพียร
17
เกื้อกูลสังคม
28
กิเลส
7
ความโกรธ
18
พบสุข
29
บาป-เวร
8
การชนะ
19
ทาน
30
ทุกข์-พ้นทุกข์
9
ความประมาท
20
ศีล
31
ชีวิต-ความตาย
10
ความไม่ประมาท
21
จิต
32
พิเศษสำหรับบุคคลทั่วไป
11
ตน-ฝึกตน
22
ปัญญา    

คลิกที่หัวข้อ "ว่าด้วยเรื่อง" ในหมวดนั้นๆ แล้วเลื่อนเมาส์ (สกรอลบาร์) ลงอ่านรายละเอียดด้านล่าง

พุทธสุภาษิต หมวดปัญญา มีทั้งหมด 51 บทดังนี้
    1.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ผู้ขบคิดปัญหาอันลึกซึ้งด้วยใจ ไม่ทำกรรมชั่วอันไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูลเลย, ไม่ละทางแห่งประโยชน์ที่มาถึงตามเวลา, บัณฑิตทั้งหลายเรียกคนอย่างนั้นว่า ผู้มีปัญญา

    2.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนเขลามียศศักดิ์ ก็เป็นทาสของคนมีปัญญา, เมื่อเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้น คนฉลาดจัดการข้อได้แนบเนียน คนเขลาถึงความงมงายในข้อนั้น

    3.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
สัตบุรุษสรรเสริญปัญญาแน่แท้ คนทั้งหลายชอบทรัพย์สมบัติ จึงใคร่ได้สิริ (ยศ) ก็ความรู้ของท่านผู้รู้ทั้งหลายชั่งไม่ได้ ทรัพย์จึงเกินกว่าปัญญาไปไม่ได้ ไม่ว่ากาลไหน ๆ 

    4.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนโง่เขลามาประชุมกันแม้ตั้งกว่าพันคน พวกเขาไม่มีปญญา ถึงจะพร่ำคร่ำครวญอยู่ตลอดร้อยปี ก็หามีประโยชน์ไม่ คนมีปัญญารู้เนื้อความแห่งภาษิต คนเดียวเท่านั้น ประเสริฐกว่า

    5.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
เมื่อน้ำใส กระจ่างแจ๋ว ย่อมมองเห็นหอยกาบ หอยโข่ง กรวด ทราย และ ฝูงปลาได้ ฉันใด เมื่อจิตไม่ขุ่นมัว ย่อมมองเห็นประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น ฉันนั้น

    6.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ในเวลาที่ควรลุกขึ้นทำงาน ไม่ลุกขึ้นทำ ทั้งที่ยังหนุ่มแน่น มีกำลัง กลับเฉื่อยชา ปล่อยความคิดให้จมปลัก เกียจคร้าน มัวซึมเซาอยู่ ย่อมไม่ประสบทางแห่งปัญญา

    7.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนโง่ถึงมียศ ก็กลายเป็นทาสของคนมีปัญญา เมื่อมีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้น บัณฑิตจัดการเรื่องใดอันเป็นเรื่องละเอียดก่อน คนโง่ย่อมถึงความหลงใหลในเรื่องนั้น

    8.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ผู้รู้ย่อมสรรเสริญคนมีปัญญา พูดจริง ตั้งมั่นในศีล ประกอบความสงบใจนั่นแล

    9.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนฉลาดกล่าวว่า ปัญญาประเสริฐ เหมือนพระจันทร์ ประเสริฐกว่าดาวทั้งหลาย แม้ศีลสิริและธรรมของสัตบุรุษย่อมไปตามผู้มีปัญญา

    10.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนผู้สดับน้อยนี้ ย่อมแก่ไป เหมือนวัวแก่ อ้วนแต่เนื้อ แต่ปัญญาไม่เจริญ

    11.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
บรรดาความอิ่มทั้งหลาย ความอิ่มด้วยปัญญาประเสริฐ, ผู้อิ่มด้วยปัญญานั้นย่อมไม่เดือนร้อนด้วยกาม, ตัณหาครอบงำ ผู้อิ่มด้วยปัญญาไว้ในอำนาจไม่ได้

    12.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาเป็นเครื่องวินิจฉัยสิ่งที่ฟังแล้ว ปัญญาเป็นเครื่องเพิ่มพูนเกียรติ และชื่อเสียง คนผู้ประกอบด้วยปัญญาในโลกนี้ แม้ในความทุกข์ก็หาความสุขได้

    13.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ถ้าพึงเห็นสุขอันไพบูลย์ เพราะยอมเสียสละสุขส่วนน้อย ผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์ ก็ควรสละสุขส่วนน้อยเสีย

    14.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ผู้มีปัญญา ถึงพร้อมด้วยความรู้ ฉลาดในวิธีจัดการงาน รู้กาลและรู้สมัย เขาพึงอยู่ในราชการได้

    15.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ถึงสิ้นทรัพย์ ผู้มีปัญญาก็เป็นอยู่ได้, แต่อับปัญญา แม้มีทรัพย์ก็เป็นอยู่ไม่ได้

    16.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนมีปัญญาทราม ได้ยศแล้ว ย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมปฏิบัติ เพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่น

    17.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปราชญ์กล่าวชีวิตของผู้เป็นอยู่ด้วยปัญญา ว่า ประเสริฐสุด

    18.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนที่อิ่มด้วยปัญญา ตัณหาจะครอบงำเอาไว้ในอำนาจไม่ได้

    19.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนมีปัญญาประเสริฐกว่า คนโง่ถึงจะมียศก็หาประเสริฐไม่

    20.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนมีปัญญา ถึงสิ้นทรัพย์ ก็ยังเป็นอยู่ได้

    21.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ขาดตาปัญญาเสียแล้ว ก็เหมือนคนตาบอด เหยียบลงไปได้ แม้กระทั่งไฟที่ส่องทาง

    22.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ราคะ โทสะ ความมัวเมา และ โมหะ เข้าที่ไหน ปัญญาย่อมเข้าไม่ถึงที่นั้น

    23.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาย่อมเจริญด้วยประการใด ควรตั้งตนไว้ด้วยประการนั้น

    24.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ผู้มีปัญญา รู้เนื้อความแห่งภาษิตคนเดียวเท่านั้น ประเสริฐกว่า

    25.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาย่อมปกครองบุรุษนั้น

    26.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์

    27.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
เมื่อขาดปัญญา ถึงจะมีทรัพย์ ก็เป็นอยู่ไม่ได้

    28.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนย่อมเห็นเนื้อความด้วยปัญญา

    29.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนฉลาดกล่าวว่า ปัญญาแลประเสริฐสูงสุด

    30.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ความพินิจ ไม่มีแก่คนไร้ปัญญา

    31.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนมีปัญญา ถึงแม้ตกทุกข์ ก็ยังหาสุขพบ

    32.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญา เป็นแสงสว่างในโลก

    33.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญา เป็นดวงแก้วของคน

    34.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาแล ประเสริฐกว่าทรัพย์

    35.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาเป็นเครื่องวินิจฉัยสิ่งที่ได้เล่าเรียน

    36.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญา

    37.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปราชญ์ว่า ชีวิตที่อยู่ด้วยปัญญา ประเสริฐสุด

    38.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ไม่พึงละเลยการใช้ปัญญา

    39.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญา ย่อมเกิดเพราะใช้การ

    40.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนเกียจคร้านย่อมไม่พบทางด้วยปัญญา

    41.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ความสิ้นปัญญาย่อมเกิดเพราะความไม่ประกอบ

    42.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
พึงวิจัยเรื่องราวตลอดสายให้ถึงต้นตอ

    43.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
รู้จักฟัง ย่อมได้ปัญญา

    44.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาเป็นเครื่องปกครองตัว

    45.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ผู้มีปัญญาอยู่ครองเรือน เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่คนมาก

    46.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
คนเราจะมองเห็นอรรถชัดแจ้งได้ด้วยปัญญา

    47.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจพิจารณา

    48.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ผู้ไม่ประมาท พินิจพิจารณา ตั้งใจฟัง ย่อมได้ปัญญา

    49.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาเป็นรัตนะแห่งนรชน

    50.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ปัญญาย่อมเกิดเพราะความประกอบด้วยหลายประการ

    51.
fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja
ผู้มีปัญญา พึงรู้ได้ด้วยการสนทนา


 

ค้นพบหัวข้อธรรมทั้งหมด 183/183 หัวข้อธรรม
แสดงหัวข้อธรรมหน้าละ 20 หัวข้อธรรม ขณะนี้คุณอยู่หน้าที่ 1/10
|<หน้าแรก    <ก่อนหน้านี้    หน้าต่อไป>    หน้าสุดท้าย>|
หน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

หมวด : คำนำ
หัวข้อที่ : 1 บทนำ

คำกลอน

หัวข้อธรรมประเภทนี้มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไปเพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้นขึ้นมาจริง ๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไปตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิดความสลดสังเวชความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปรารถนา
กวาดล้างความรู้สึกที่ทำความรำคาญต่าง ๆ ให้แก่ตน
ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่าง และความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน ๆ

ความรู้ ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติธรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว

ทั้งสมาธิ และ ปัญญาในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด
หมวด : บทนำ
หัวข้อที่ : 2 บทนำ

คำกลอน

คำประพันธ์ บทพระธรรม ไม่จำเพาะ
ว่าจะต้อง, ไพเราะ เพราะอักษร
หรือ สัมผัส ช้อยชด แห่งบทกลอน
ที่อรชร ฯ เชิงกวี ตามนิยมฯ

ขอแต่เพียง ให้อรรถ แห่งธรรมะ
ได้แจ่มจะ ถนัดเห็น เป็นปฐม
แล้วได้รส แห่งพระธรรม ด่ำอารมณ์
ที่อาจบ่ม เบิกใจ ให้เจริญ ฯ

ให้นิสัย เปลี่ยนใหม่ จากก่อนเก่า
ไม่ซึมเศร้า สุขสง่า น่าสรรเสริญ
เป็นจิตกล้า สามารถ ไม่ขาดเกิน
ขอชวนเชิญ ชมธรรมรส งดกวี ฯ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 3 การงานคือการปฏิบัติธรรม

คำกลอน

หัวข้อธรรมประเภทนี้มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไปเพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้นขึ้นมาจริง ๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไปตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิดความสลดสังเวชความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปรารถนา
กวาดล้างความรู้สึกที่ทำความรำคาญต่าง ๆ ให้แก่ตน
ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่าง และความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน ๆ

ความรู้ ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติธรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว

ทั้งสมาธิ และ ปัญญาในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 4 การงานเป็นสิ่งที่น่ารัก

คำกลอน

อันที่จริง การงาน นั้นน่ารัก
เมื่อยังไม่ รู้จัก ก็อางขนาง (คือไม่ชอบ)
ไม่รู้จัก ก็ปล่อยปละ แล้วละวาง
บ้างร้องคราง เมื่อรอหน้า ว่าเบื่อจริง

แต่ที่แท้ การงาน นั้นน่ารัก
สอนให้คน รู้จัก ไปทุกสิ่ง
ถ้ายิ่งทำ ยิ่งฉลาด ไม่พลาดยิง
ได้ตรงดิ่ง สิ่งอุกฤษฏ์ คือจิตเจริญ

การงานนี้ ดูให้ดี มันน่ารัก
เป็นการชัก ธรรมะมา น่าสรรเสริญ
คือมีสติ ฉันทะ ทมะเกิน
ครั้นหยุดเพลิน จิตก็วาง ทางนิพพาน
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 5 การงานทำให้ชีวิตสดใส

คำกลอน

อันการงาน นั้นประเสริฐ ตรงที่สนุก
ยิ่งทำงาน ยิ่งเป็นสุข ทุกสถาน
ทำชีวิต ให้สดใจ ใจเบิกบาน
ในการงาน ประจำวัน นั่นเองนา

เมื่ออย่างนี้ มีแต่คน วิวลจิต
เย็นสนิท ดวงใจ ไร้โทสา
เกิดสังคม ที่อุดม ด้วยเมตตา
อยากเรียกว่า ธัมมิกะ สังคมนิยม

ผลของงาน ล้นเหลือ เผื่อแผ่ทั่ว
สัตว์ทุกตัว ใหญ่น้อย พลอยสุขสม
ทั้งเมืองเล็ก เมืองใหญ่ ได้ชื่นชม
โลกระดม สุขวาง ทางนิพพาน
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 6 การงาน

คำกลอน

อันการงาน คือค่า ของมนุษย์
ของมีเกียรติ สูงสุด อย่าสงสัย
ถ้าสนุก ด้วยการงาน เบิกบานใจ
ไม่เท่าไร รู้ธรรม ฉ้ำซึ้งจริง

ตัวการงาน คือตัวการ ประพฤติธรรม
พร้อมกันไป หลายส่ำ มีค่ายิ่ง
ถ้าจะเปรียบ ก็เหมือนคน ฉลาดยิง
นัดเดียววิ่ง เก็บนก หลายพกเอยฯ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 7 กิเลสคุย

คำกลอน

คุยเสียดี ที่แก้ แพ้กิเลส
น่าสมเพช เตือนเท่าไหร่ ก็ไม่เห็น
ว่าเป็นทาส กิเลส อยู่เช้าเย็น
จะอวดเป็น ปราชญ์ไป ทำไมนา

ค้นธรรมะ หาทางออก อุ้มกิเลส
น่าสมเพช จริง ๆ เที่ยววิ่งหา
ตำรานี่ ตำรานั่น สรรหามา
ได้เป็นข้า กิเลสไป สมใจเอย ฯ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 8 จริงซี่!

คำกลอน

จริงซี ! เราบ้าบอก ธรรมกัน
เพาะเหตุ ที่ธรรมนำ โลกแล้
ห่างทุกข์ สบศุขทัน ใจอยาก
เป็นศุข ที่เที่ยงแท้ จุ่งเห็น ฯ

ธรรม, ธรรม, ธรรม ,เท่านั้น ที่สมาน
โลกนี้ โลกหน้า เย็นยิ่งน้ำ
ใครคบ เสพธรรมฐาน คู่ชีพ
ตนสุข , เมีย , ลูก , ซ้ำ สุขตาม ฯ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 9 บ้าดี

คำกลอน

ยิ่งทำดี จะยิ่งมี นรกมาก
ถ้าใจอยาก ดีเด่น เป็นเจ้าขรัว
ให้ผู้คนทั้งผอง ต้องยอมกลัว
คือยอมตัว อยู่ใต้ ปัญญายง;

ไม่ต้องการ มรรผล ดลนิพพาน
คงต้องการ แต่ให้ เขาช่วยส่ง
ให้ลอยลม ล่วงไป จมไม่ลง
ต้องประสงค์ แต่เท่านี้ : “บ้าดี” เอยฯ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 10 ช่างหัวมัน

คำกลอน

จงยืนกราน สลัดทั่ว ช่างหัวมัน
ถ้าเรื่องนั้น นั้นเป็นเหตุ แห่งทุกข์หนา
อย่าสำออย ตะบอยจัด ไว้อัตรา
ตัวกูกล้า ขึ้นเรือย ๆ อัดใจตาย

เรื่องนั้นนิด เรื่องนี้หน่อย ลอยมาเอง
ไปบวกเบ่ง ให้เห็นว่า จะฉิบหาย
เรื่องเล็กน้อย ตะบอยเห็น เป็นมากมาย
แต่ละราย รีบเขวี้ยงขว้าง ช่างหัวมัน

เมื่อตัวก็ ลู่หลุบ ลงเท่าไร
จะเย็นเยือก ลงไป ได้เท่านั้น
รอดตัวได้ เพราะรู้ใช้ “ช่างหัวมัน”
จงพากัน หัดใช้ ไว้ทุกคน ฯ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 11 อย่าช่างหัวมัน

คำกลอน

อย่าบิ่นบ้า มัวแต่อ้าง ช่างหัวมัน
ถ้าเรื่องนั้น เกี่ยวกับเพื่อน มนุษย์หนา
ต้องเอื้อเฟื้อ ปฏิบัติ เต็มอัตรา
โดยถือว่า เป็นเพื่อน เกิด - แก่เจ็บตาย

การช่วยเหลือ เหมือนช่วย ตัวเราเอง
เมื่อจิตเพ่ง- เล็งช่วย ทวยสหาย
ย่อมลดความ เห็นแก่ตัว ลงมากมาย
ทุกทุกราย อย่าเขวี้ยวขว้าง ช่างหัวมัน

เห็นแก่ตัว บางเบา ลงเท่าไร
ยิ่งเข้าใกล้ พระนิพพาน เห็นปานนั้น
รอดตัวได้ เพราะไม่มัว ช่างหัวมัน
จงพากัน ใคร่ครวญ ถ้วนทุกคน ฯ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 12 ปิด –ปิด –ปิด

คำกลอน

ปิด-ปิดตา: อย่าสอดส่าย ให้เกิดเหตุ
บางประเภท แกล้งทำบอด ยอดกุศล
มัวสอดรู้ สอดเห็น จะเป็นคน
เอาไฟลน ตนไป จนใหม้พอง ;

ปิด-ปิดหู: อย่าให้แส่ ไปฟังเรื่อง
ที่เป็นเครื่อง กวนใจ ให้หม่นหมอง
หรือเร้าใจ ให้ฟุ้งซ่าน พาลลำพอง
ผิดทำนอง คนฉลาด อนาถใจ ;

ปิด-ปิดปาก: อย่าพูดมาก เกินจำเป็น
จะเป็นคน ปากเหม็น เขาคลื่นใส้
ต้องเกิดเรื่อง เยิ่นเย้อ เสมอไป
ถ้าหุบปาก มากไว้ ได้แท่งทองฯ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 13 เปิด –เปิด –เปิด

คำกลอน

เปิด-ปิดตา: ให้รับแสง แห่งพระธรรม
ยิ่งมืดค่ำ ยิ่งเห็นชัด ถนัดถนี่
สมาธิมาก ยิ่งเห็นชัด ถนัดดี
นี่วิธี เปิดตาใจ ใช้กันมาฯ

เปิด-ปิดหู: ให้ยินเสียง สำเนียงธรรม
ทั้งเช้าค่ำ มีก้องไป ในโลกหล้า
ล้านล้านปี ฟังให้ชัด เต็มอัตรา
คือเสียงแห่ง สุญญตา ค่าสุดใจฯ

เปิด-ปิดปาก: สนทนา พูดจาธรรม
วันยังค่ำ อย่าพูด เรื่องเหลวไหล
พูดแต่เรื่อง ดังทุกข์ได้ โดยสัจจนัย
ไม่เท่าไร เราทั้งโลก พ้นโศกแลฯ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 14 นั่งริมธาร

คำกลอน

นั่งริมธาร ครุ่นวิจาร การเกิดดับ
เปลี่ยนปุบปับ สายธาร ทะยานไหล
เกิดไอเย็น ฟ่องฟุ้ง จรุงใจ
ดับร้อนได้ โดยไม่ต้อง ลองอาบกิน

อิกทางหนึ่ง ตลึงแล แน่ใจนัก
ถ้าใครผลัก ตกลง คงแดดิ้น
กระทบก้อน หินผา ใต้วาริน
แล้วจะสิ้น ชีพไป ในวังวน

มานึกดูเปรียบดั่ง สังสารวัฏฏ์
ดูผาดๆ น่ากระหวัด ในลาภผล
ที่ซ่อนอยู่ ในทุกข์ ปลุกใจคน
ให้ยอมทน ทุกข์ยาก บากบั่นไป

จนได้เกิด แต่ตาย ในวัฏฏะ
ไม่มีสะ ใจสร่าง อย่างไหน ๆ
ใครมองเห็น จงระวัง ยั้งจิตใจ
อย่าให้ไพล่ พลัดตก นรกวน
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 15 ยาระงับสรรพทุกข์

คำกลอน

ต้น “ไม่รู้-ไม่ชี้” นี่เอาเปลือก
ต้น “ชั่งหัวมัน” นั้นเลือก เอาแก่นแข็ง
“อย่างนั้นเอง” เอาแต่ราก ฤทธิ์มันแรง
“ไม่มีกู-ของกู” แสวง เอาแต่ใบ

“ไม่น่าเอา-น่าเป็น” เฟ้นเอาดอก
“ตายก่อนตาย” เลือกเอา ลูกใหญ่ ๆ
หกอย่างนี้ อย่างละชั่ง ตั้งเกณฑ์ไว้
“ดับไม่เหลือ” สิ้งสุดท้าย ใช้เมล็ดมัน

หนักหกชั่ง เท่ากับ ยาทั้งหลาย
เคล้ากันไป เสกคาถา ที่อาถรรพ์
“สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสาย” อัน
เป็นธรรมนั้น หฤทัย ในพุทธนาม

จัดลงหม้อ ใส่น้ำ พอท่วมยา
เคี่ยวไฟกล้า เหลือได้ หนึ่งในสาม
หนึ่งช้อนชา สามเวลา พยายาม
กินเพื่อความ หมดสรรพโรค เป็นโลกอุด
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 16 นั่งเหนือเมฆ

คำกลอน

รู้สึกว่า น่าดู อยู่เหนือเมฆ
แสนวิเวก สุขใจ ดั่งในฝัน
เมื่อเมฆนอก เมฆใน ไม่พัวพัน
เป็นสุขครัน สิ่งใด ไม่มีปาน

นั่งเหนือเมฆ แล้วบางคน ยังก่นเศร้า
อะไรเล่า ติดมา ลองว่าขาน
หรือเงินทอง ติดตัง ทั้งการงาน
ก็ตามมา รังควาญ เป็นถ่านไฟ

เห็นไหมเล่า เมฆหมอก ยังหลอกลวง
ดึงใครล่วง เลยได้ ก็ไม่ไหว
ยังไม่พ้น ทุกข์ทน หม่นหมองใจ
พ้นเมฆใน จึงจะเอก วิเวกจริง

ดูป่วยการ ที่จะผ่าน เพียงเมฆกาย
ไม่ทุกข์ทน มากมาย ดอกชายหญิง
ส่วนเมฆจิต ปิดบัง ควรชังชิง
ยิ่งกว่าลิง หลอดเจ้า ทำเราเพลีย

อันเมฆกาย ที่จะกลาย เป็นเมฆจิต
ก็เพราะความ ขุ่นคิด จนจิตเสีย
ถ้ารู้เท่า ทันทั่ว ไม่งัวเงีย
หยุดนัวเนีย ก็เย็นเหลือ เหนือเมฆเอ
หมวด : การงาน
หัวข้อที่ : 17 อะไรที่ไหน

คำกลอน

อันความงาน มีอยู่ตาม หมู่ซากผี
อันความดี อยู่ที่ละ สละยิ่ง
ความเป็นพระ อยู่ที่เพียร บวชเรียนจริง
นิพพานดิ่ง อยู่ที่ตาย ก่อนตายเอยฯ
หมวด : เตือนตน
หัวข้อที่ : 18 หลักของคนทุกวันนี้

คำกลอน

ถ้าเอาเปรียบ เขาไม่ได้ ก็ว่า “ไม่ถูก”
ถ้าจูงจมูล ได้ทุกที ก็ว่า “ดีเหลือ”
ถึงวันดี เกิดมี เกลือจิ้มเกลือ
ร้องว่า “เบื่อ” โลกอะไร? ไม่เป็นธรรม

คนพวกนี้ มีโลก ของตัวเอง
ไปตามเพลง ของกิเลส ที่อุปถัมภ์
ไม่ยอมรับ อะไรหมด แม้กฏกรรม
ความเป็นธรรม นั้นคือ “ได้ ตามใจตัว”

ไกลจากสัตว์ ไปทุกที ที่ว่าเจริญ
หาส่วนเกิน มาเทิดไว้ ใส่เกล้าหัว
ใช้สงคราม ตัดสินความ ไม่คร้ามกลัว
ว่าความชั่ว จะไหม้โลก เป็นโคกไฟฯ
หมวด : เตือนตน
หัวข้อที่ : 19 ยึดมั่นมันกัด

คำกลอน

ชอบยึดมั่น ระวังมัน จะกัดเอา
เพราะความเขลา ยึดมั่น มีตัณหา
อุปาทาน กอดรัด มัดวิญญาณ์
อยู่ดีดี ก็เป็นบ้า มาทันที

ยึดสิ่งใด สิ่งนั้น แหละมันกัด
กิน,กาม,เกียรติ สารพัด กลีหรือ ศรี
หรือแม้บุตร ภรรยา และ สามี
ความชั่วดี บุญหรือบาป จงทราบกัน

แม้รสสุข ที่อร่อย อยู่กับใจ
ชั่นที่อร่อย แน่นิ่งไป, ถ้ายึดมั่น
จะกลายเป็น ยักษา ขึ้นมาพลัน
แล้วห้ำหั่น กัดเอา อย่าเขลา
หมวด : เตือนตน
หัวข้อที่ : 20 บาปใหญ่-บาป

คำกลอน

คิดว่าดี กว่าเขา ซิเราแย่
มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่บาปใหญ่
ส่วนตัวเอง บาปลึก นึกให้ไกล
มันบาปเบา อยู่เมื่อไร ให้นึกดู

เขาติดซ้าย, เราติดขวา, ถ้ามานึก
มันยังติด เหลือลึก กันทั้งคู่
แม้ติดซ้าย เลวกว่า ไม่น่าดู
แต่ติดขวา มันก็หรู อยู่เมื่อไร

มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่ยังเลว
ส่วนตัวเอง ก็ยังเหลว ไม่ไปไหน
เฝ้าเกลียดซ้าย รักขวา เป็นบ้าใจ
มันก็ไฟล่ พลัดห่าง ทางนิพพานฯ

ค้นพบหัวข้อธรรมทั้งหมด 183/183 หัวข้อธรรม
แสดงหัวข้อธรรมหน้าละ 20 หัวข้อธรรม ขณะนี้คุณอยู่หน้าที่ 1/10
|<หน้าแรก    <ก่อนหน้านี้    หน้าต่อไป>    หน้าสุดท้าย>|
หน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

 
 
 
 
 
 
 
 

ขณะนี้มีคน Online อยู่  552 คน