พุทธสุภาษิต หมวดปัญญา มีทั้งหมด 51 บทดังนี้ 1. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ขบคิดปัญหาอันลึกซึ้งด้วยใจ ไม่ทำกรรมชั่วอันไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูลเลย, ไม่ละทางแห่งประโยชน์ที่มาถึงตามเวลา, บัณฑิตทั้งหลายเรียกคนอย่างนั้นว่า ผู้มีปัญญา 2. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเขลามียศศักดิ์ ก็เป็นทาสของคนมีปัญญา, เมื่อเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้น คนฉลาดจัดการข้อได้แนบเนียน คนเขลาถึงความงมงายในข้อนั้น 3. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษสรรเสริญปัญญาแน่แท้ คนทั้งหลายชอบทรัพย์สมบัติ จึงใคร่ได้สิริ (ยศ) ก็ความรู้ของท่านผู้รู้ทั้งหลายชั่งไม่ได้ ทรัพย์จึงเกินกว่าปัญญาไปไม่ได้ ไม่ว่ากาลไหน ๆ 4. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนโง่เขลามาประชุมกันแม้ตั้งกว่าพันคน พวกเขาไม่มีปญญา ถึงจะพร่ำคร่ำครวญอยู่ตลอดร้อยปี ก็หามีประโยชน์ไม่ คนมีปัญญารู้เนื้อความแห่งภาษิต คนเดียวเท่านั้น ประเสริฐกว่า 5. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เมื่อน้ำใส กระจ่างแจ๋ว ย่อมมองเห็นหอยกาบ หอยโข่ง กรวด ทราย และ ฝูงปลาได้ ฉันใด เมื่อจิตไม่ขุ่นมัว ย่อมมองเห็นประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น ฉันนั้น 6. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ในเวลาที่ควรลุกขึ้นทำงาน ไม่ลุกขึ้นทำ ทั้งที่ยังหนุ่มแน่น มีกำลัง กลับเฉื่อยชา ปล่อยความคิดให้จมปลัก เกียจคร้าน มัวซึมเซาอยู่ ย่อมไม่ประสบทางแห่งปัญญา 7. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนโง่ถึงมียศ ก็กลายเป็นทาสของคนมีปัญญา เมื่อมีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้น บัณฑิตจัดการเรื่องใดอันเป็นเรื่องละเอียดก่อน คนโง่ย่อมถึงความหลงใหลในเรื่องนั้น 8. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้รู้ย่อมสรรเสริญคนมีปัญญา พูดจริง ตั้งมั่นในศีล ประกอบความสงบใจนั่นแล 9. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนฉลาดกล่าวว่า ปัญญาประเสริฐ เหมือนพระจันทร์ ประเสริฐกว่าดาวทั้งหลาย แม้ศีลสิริและธรรมของสัตบุรุษย่อมไปตามผู้มีปัญญา 10. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนผู้สดับน้อยนี้ ย่อมแก่ไป เหมือนวัวแก่ อ้วนแต่เนื้อ แต่ปัญญาไม่เจริญ 11. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บรรดาความอิ่มทั้งหลาย ความอิ่มด้วยปัญญาประเสริฐ, ผู้อิ่มด้วยปัญญานั้นย่อมไม่เดือนร้อนด้วยกาม, ตัณหาครอบงำ ผู้อิ่มด้วยปัญญาไว้ในอำนาจไม่ได้ 12. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาเป็นเครื่องวินิจฉัยสิ่งที่ฟังแล้ว ปัญญาเป็นเครื่องเพิ่มพูนเกียรติ และชื่อเสียง คนผู้ประกอบด้วยปัญญาในโลกนี้ แม้ในความทุกข์ก็หาความสุขได้ 13. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ถ้าพึงเห็นสุขอันไพบูลย์ เพราะยอมเสียสละสุขส่วนน้อย ผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์ ก็ควรสละสุขส่วนน้อยเสีย 14. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีปัญญา ถึงพร้อมด้วยความรู้ ฉลาดในวิธีจัดการงาน รู้กาลและรู้สมัย เขาพึงอยู่ในราชการได้ 15. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ถึงสิ้นทรัพย์ ผู้มีปัญญาก็เป็นอยู่ได้, แต่อับปัญญา แม้มีทรัพย์ก็เป็นอยู่ไม่ได้ 16. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญาทราม ได้ยศแล้ว ย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมปฏิบัติ เพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่น 17. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปราชญ์กล่าวชีวิตของผู้เป็นอยู่ด้วยปัญญา ว่า ประเสริฐสุด 18. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนที่อิ่มด้วยปัญญา ตัณหาจะครอบงำเอาไว้ในอำนาจไม่ได้ 19. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญาประเสริฐกว่า คนโง่ถึงจะมียศก็หาประเสริฐไม่ 20. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญา ถึงสิ้นทรัพย์ ก็ยังเป็นอยู่ได้ 21. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ขาดตาปัญญาเสียแล้ว ก็เหมือนคนตาบอด เหยียบลงไปได้ แม้กระทั่งไฟที่ส่องทาง 22. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ราคะ โทสะ ความมัวเมา และ โมหะ เข้าที่ไหน ปัญญาย่อมเข้าไม่ถึงที่นั้น 23. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาย่อมเจริญด้วยประการใด ควรตั้งตนไว้ด้วยประการนั้น 24. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีปัญญา รู้เนื้อความแห่งภาษิตคนเดียวเท่านั้น ประเสริฐกว่า 25. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาย่อมปกครองบุรุษนั้น 26. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์ 27. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เมื่อขาดปัญญา ถึงจะมีทรัพย์ ก็เป็นอยู่ไม่ได้ 28. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนย่อมเห็นเนื้อความด้วยปัญญา 29. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนฉลาดกล่าวว่า ปัญญาแลประเสริฐสูงสุด 30. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความพินิจ ไม่มีแก่คนไร้ปัญญา 31. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญา ถึงแม้ตกทุกข์ ก็ยังหาสุขพบ 32. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญา เป็นแสงสว่างในโลก 33. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญา เป็นดวงแก้วของคน 34. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาแล ประเสริฐกว่าทรัพย์ 35. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาเป็นเครื่องวินิจฉัยสิ่งที่ได้เล่าเรียน 36. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญา 37. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปราชญ์ว่า ชีวิตที่อยู่ด้วยปัญญา ประเสริฐสุด 38. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ไม่พึงละเลยการใช้ปัญญา 39. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญา ย่อมเกิดเพราะใช้การ 40. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเกียจคร้านย่อมไม่พบทางด้วยปัญญา 41. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความสิ้นปัญญาย่อมเกิดเพราะความไม่ประกอบ 42. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พึงวิจัยเรื่องราวตลอดสายให้ถึงต้นตอ 43. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja รู้จักฟัง ย่อมได้ปัญญา 44. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาเป็นเครื่องปกครองตัว 45. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีปัญญาอยู่ครองเรือน เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่คนมาก 46. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเราจะมองเห็นอรรถชัดแจ้งได้ด้วยปัญญา 47. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจพิจารณา 48. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ไม่ประมาท พินิจพิจารณา ตั้งใจฟัง ย่อมได้ปัญญา 49. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาเป็นรัตนะแห่งนรชน 50. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาย่อมเกิดเพราะความประกอบด้วยหลายประการ 51. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีปัญญา พึงรู้ได้ด้วยการสนทนา
|