มหาหมอดู ดอท คอม

ระบบสุริยคติและจันทรคติ
               
ะบบสุริยคติ คือการถือเอาการโคจรของดวงอาทิตย์เป็นหลัก ซึ่งได้แก่ วันที่ 1-31 เดือน ม.ค.-ธ.ค. และ พ.ศ. การนับแบบสุริยคติ ถือเอา เวลา 24.00 น. (6 ทุ่ม) เป็นเวลาสิ้นวัน ถือว่าเป็นเวลาขึ้นวันใหม่ ส่วนสิ้นปี ถือเอา วันที่ 31 เดือน ธ.ค. และเริ่ม พ.ศ. ใหม่ในวันที่ 1 ม.ค. ของทุกปี
ระบบจันทรคติ คือการถือเอาการโคจรของดวงจันทร์เป็นหลัก ซึ่งได้แก่ วันอาทิตย์-วันเสาร์ เดือนอ้าย (1) เดือนยี่-เดือน 12 และปีนักษัตรคือปี ชวด-กุน ถือเอาเวลารุ่งอรุณของวันใหม่ คือเวลา 06.00 น. เป็นเวลาสิ้นวัน ส่วนปีนักษัตร จะขึ้นเป็นปีใหม่ต่อเมื่อถึง วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ในโปรแกรมมหาหมอดูนี้ จะถือเอาแบบจันทรคติ คือปีนักษัตร (ปีชวด ฉลู ขาล เถาะ.....กุน) จะเปลี่ยนใหม่ต่อเมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี

การผูกดวงชะตา
          การผูกดวงชะตา จะต้องอาศัย วันที่….เดือน….ปี เกิดเป็นหลัก ผู้จะผูกดวงชะตาจะต้องจำวันเกิดของตัวเองได้อย่างถูกต้อง ถ้าบอกวัน เดือน ปีเกิดคลาดเคลื่อนเพียงวันเดียว ตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ก็จะคลาดเคลื่อนและการทำนายก็จะคลาดเคลื่อนไปด้วย ที่สำคัญ "ดวงจักรราศี" จะมาเป็น "ดวงชะตา" ได้นั้นจะต้องมี "ลัคนา" (ซึ่งในโปรแกรมนี้ จะใช้สัญลักษณ์ "ลั") เข้ามาประกอบด้วย จึงจะเกิดเป็นดวงชะตาได้ "ลัคนา" คือ จุดเวลาเกิดของเจ้าชะตาในจักรราศี ฉะนั้นการที่จะวาง "ลัคนา" ได้นั้น เจ้าชะตาจะต้องจำเวลาเกิดของตัวเองได้ด้วย เพราะจุดอันเป็นหัวใจของการ "ผูกดวง" และคำนวณหา "ลัคนา" นั้น อยู่ที่ "เวลาเกิด" เป็นสำคัญ หากเจ้าชะตาจำเวลาเกิดไม่ได้จริงๆ อนุโลมให้บอกเวลาโดยประมาณได้
           การผูกดวงคือการนำวัน เดือน ปี และเวลาเกิดมาคำนวณตามปฏิทินโหราศาสตร์ซึ่ง เป็นปฏิทิน ที่คำนวณ ขึ้นมาจาก การโคจรของดวงดาวในระบบสุริยจักวาลโดยรายละเอียดในปฏิทินนั้นจะบอกการโคจรของดวงดาวในแต่ละวันว่าช่วงเวลาต่างๆ ดวงดาวแต่ละดวงมีการเคลื่อนที่อย่างไร โหราจารย์ในสมัยก่อนจึงคิดจำลองเอาตำแหน่งดาวเคราะห์ต่างๆ บนท้องฟ้ามาสร้างเป็นแผนที่ดวงดาวทางโหราศาสตร์ขึ้น ซึ่ง ก็คือการ ผูกดวงนั่นเอง โดยท่านได้จำลอง แผนที่ดาวในท้องฟ้า เป็นวงกลมที่ เรียกว่าจักราศีและมีการแบ่งช่องต่างๆ เป็น ๑๒ ช่อง แต่ละ ช่องก็คือราศีต่างๆ 12 ราศี โดยที่ราศีต่างๆ เหล่านี้จะถูก กำหนดตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง

ขั้นตอนการผูกดวง
                    
ใส่ชื่อของคุณ ในช่องที่ให้ใส่ชื่อ เลือกวันที่และเดือนที่คุณเกิดให้ถูกต้อง ช่องปี พ.ศ. ใส่ปี พ.ศ. ที่คุณเกิด จำนวน 4 หลักให้ถูกต้อง ช่องเวลาเกิด แบ่งออกเป็น 2 ช่องคือ ช่องที่ 1เป็นช่อง ชั่วโมง ช่องที่ 2 เป็นช่องนาที โปรดอย่าลืม!! ว่าเวลาเกิดเป็นสิ่งสำคัญต่อคำทำนายมาก ถ้าป้อนเวลาเกิดคลาดเคลื่อน ตำแหน่งลัคนาก็จะคลาดเคลื่อนไป คำทำนายก็จะคลาดเคลื่อนด้วยเช่นกัน

การพิจารณาดาวเคราะห์จรมาต้องดาวกำเนิด
(การทำนายเหตุการณ์ปัจจุบัน)

         การพยากรณ์ความเป็นไปของชีวิตจากดวงชะตา ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ ก็พยากรณ์จากดาวพระเคราะห์ที่โคจรใน ๑๒ ราศี ส่งกระแสสัมพันธ์มาถึงดาวพระเคราะห์ในดวงชาตาตลอดจนลัคนาของผู้นั้น มีหลักเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาหลายนัยด้วยกันคือ
               ๑. ให้พิจารณาจากลัคนาเป็นประการแรก และสำคัญที่สุด ตรวจดูว่าราศีที่ลัคนาสถิตนั้นมีดาวพระเคราะห์ใดบ้างที่ให้คุณ และให้โทษ
               ๒. ให้พิจารณาดาวเจ้าเรือนลัคน์ว่าโคจรไปอยู่ในตำแหน่งใด เข้มแข็ง หรืออ่อนแอ นอกจากนั้นให้ดูดวงเจ้าเรือนที่จันทร์ในดวงชาตาสถิต ทำนองเดียวกับเจ้าเรือนลัคน์
                ๓. ในราศีใดที่มีดาวพระเคราะห์โคจรไปต้องกัน ให้พิจารณาดู ดาวที่เป็นเกษตรในราศีนั้นด้วย
                ๔. ดาวพระเคราะห์เดิมในดวงชะตา เมื่อถูกดาวพระเคราะห์จรมาต้องส่งผลให้ในทางให้โทษ ให้พิจารณาตำแหน่งของดาวพระเคราะห์เดิมในดวงชาตาที่ถูกเบียนนั้น ตรวจดูสภาพที่กำลังเป็นดาวพระเคราะห์จรในขณะนั้น
                ๕. นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ถ้าหากในขณะนั้นเกิดมีจุดดับ หรือจุดคราสมาถูกต้องในดวงชาตาก็นับว่าเป็นผลร้าย จุดดับคือตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ ยกเว้นราหู และเกตุ ซึ่งโคจรเข้าร่วมกับอาทิตย์ มีองศาใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ ประมาณ ๕ องศา ถ้าเป็นจุดดับของพระจันทร์มีชื่อเรียกว่า จุดอามาวสี จุดดับของจันทร์ถ้าไปต้องดาวพระเคราะห์ใดเข้า รวมทั้งลัคนาก็ถือว่าเป็นจุดเบียน และจุดที่อาทิตย์กับจันทร์มีองศาเท่ากัน ถือว่าดับสนิท ถ้าไปเท่ากับองศาของลัคนา หรือดาวพระเคราะห์ที่โคจรไปทับก็ถือว่าเป็นจุดเบียน หากดาวพระเคราะห์ที่ดับเป็นดาวเกษตรเจ้าเรือนลัคน์ หรือเจ้าเรือนจันทร์ก็จะทำให้ชาตาในจังหวะนั้นไม่สู้ดี ดาวพระเคราะห์ดวงใดที่โคจรเข้าไปสู่จุดดับ ถือว่าดาวพระเคราะห์ดวงนั้นหมดกำลังต้านทาน
               
 จุดคราส เป็นจุดดับอีกประการหนึ่ง ซึ่งรุนแรงกว่าจุดดับธรรมดา และสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจุดดับของจันทร์ และจุดเพ็ญของจันทร์ที่เรียกว่า ปุรณมี ถ้ามีราหูร่วมหรือเล็งในระยะองศาใกล้เคียง ภายในระยะองศาที่บังคับไว้ทำให้เกิดสุริยุปราคา ขึ้นเรียกว่า จุดคราส ถ้าจุดนี้ไปต้องลัคนา หรือดาวพระเคราะห์ดวงใดในชาตา จะเป็นด้วยการร่วมหรือเล็งก็ตามโดยมีองศาใกล้เคียงกันภายใน ๒๐๐ ลิบดา ดาวเกษตร์เจ้าเรือนลัคน์ ดาวเกษตรเจ้าเรือนจันทร์ ดาวเกษตร์เจ้าราศีที่อาทิตย์ในชาตากำเนิดสถิตอยู่ถือว่า เป็นชาตาเข้าฆาฏระยะหนึ่ง จะให้ผลร้ายเมื่ออังคารโคจรมาทับ หรือมาเล็ง จุดคราสอีกจุดหนึ่ง คือจุดที่อาทิตย์กับจันทร์โคจรมาเล็งกันเป็นมุม ๑๘๐ องศา ทำให้เกิดจุดเพ็ญขึ้น แต่มีราหูเข้ามามีองศาร่วม จะร่วมในราศีที่อาทิตย์สถิต หรือจันทร์สถิตก็ได้ ทำให้เกิดจันทรุปราคาขึ้น มีผลเช่นเดียวกับ สุริยุปราคา
              
จุดเพ็ญ ถือว่าเป็นจุดดีจุดหนึ่ง จันทร์เพ็ญโคจรไปร่วมกับดาวดวงใด จะทำให้ดาวดวงนั้นมีกำลังขึ้น ทั้งดาวพระเคราะห์เดิมในดวงชาตา และดาวพระเคราะห์ที่กำลังโคจรในวิถีจักร
๖. ดาวพระเคราะห์ที่จัดว่าให้คุณในดวงชาตา เมื่อโคจรมาต้องตัวเองเข้าก็ถือว่าให้ผลดี ตรงกันข้ามดาวพระเคราะห์ที่ให้โทษในดวงชาตา เมื่อโคจรมาต้องตัวเองก็จะให้ผลร้าย
              ๗. การพิจารณาผลจากดาวพระเคราะห์โคจรมาต้อง ให้ตรวจดูว่าดาวดวงนั้นตั้งอยู่ในภพใดจากดาวนั้น ก็จะให้คุณให้โทษตามสภาพของภพนั้น ๆ

ระยะเวลาการอยู่ในราศีนั้นๆ (๑๒ ราศี)
ของดาวพระเคราะห์แต่ละดวง

           
ดาวพระเคราะห์ที่โคจรใน ๑๒ ราศี จะใช้ระยะเวลาในการโคจรจากราศีหนึ่งไปยังอีกราศีหนึ่งโดยโคจรทวนเข็มนาฬิกา (เว้นดาวราหูกับดาวเกตุที่เดินถอยหลัง) ดังนี้
          ๑ ดาวอาทิตย์ โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๑ เดือน
          ๒ ดาวจันทร์ โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๒.๕ วัน (๒ วันครึ่ง)
          ๓ ดาวอังคาร โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๔๕ วัน
          ๔ ดาวพุธ โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๑๕ วันถึง ๓๐ วัน (โดยประมาณ)
          ๕ ดาวพฤหัส โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๑ ปี
          ๖ ดาวศุกร์ โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๑๕ วันถึง ๑ เดือน
          ๗ ดาวเสาร์ โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๒.๕ ปี (๒ ปีครึ่ง)
          ๘ ดาวราหู โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๑.๕ ปี (๑ ปีครึ่ง)
          ๙ ดาวเกตุ โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๒ เดือน
          ๐ ดาวมฤตยู โคจรอยู่ในราศีเป็นเวลาประมาณ ๗ ปี (ชั่ว ๗ ทีดี ๗ หน)

ลัคนา และดวงชาตา (โดยละเอียด)
           ลัคนาคือความหมุนของโลกในระยะ ๑ วัน กำหนดด้วยวิถีของโลกโคจรตามคติในรอบ ๑ ปี เมื่อเราได้คำนวณสมผุสแล้วว่าพระอาทิตย์อยู่ในราศีใด มีมุมเป็นองศา ลิบดาเท่าใดก็จะรู้ได้ว่าลัคนาเกาะอยู่ที่ใด คือเกาะอยู่ในนวางค์ ตรียางค์ใดของราศีใด ตามคติเวลาของอันโตนาที
        เส้นทางที่เป็นลัคนากำหนดไว้ว่า เวลาย่ำรุ่งเส้นนี้อยู่ตรงกับดวงอาทิตย์เสมอ และในราศีที่เห็นดวงอาทิตย์อยู่นั้น ระยะทางที่เห็นว่าดวงอาทิตย์ผ่านไปแล้วกี่องศา กี่ลิบดา เรียกว่า อดีต อาทิตย์อุทัย และอีกกี่องศา และลิบดาที่ดวงอาทิตย์จะต้องผ่านไปจนตลอดราศีนั้นเรียกว่า อนาคตอุทัย การที่ลัคนาเกาะอยู่ในเวลาย่ำรุ่งคือเส้นที่แบ่งเขตอดีต และอนาคตอุทัย ถ้าลากเส้นนี้ผ่านดวงอาทิตย์ออกเป็นสองซีก ให้ตรงไปยังดาวราศีที่เห็นข้างหลังดวงอาทิตย์ แล้วต่อเส้นตรงนี้มายังโลก เส้นตรงนี้จะผ่าโลกออกเป็นสองซีกตลอดขั้วโลกเหนือและใต้ เส้นตรงนี้เรียกว่าลัคนาที่เกาะอยู่ในโลกเมื่อเวลาย่ำรุ่ง ซึ่งก็คือเส้นเมอริเดียนของโลก ที่อยู่ตรงกับดวงอาทิตย์เมื่อเวลาย่ำรุ่ง เมื่อที่หมาย ณ ที่นั้นเคลื่อนไปจากที่ตรงกับดวงอาทิตย์ อันเนื่องด้วยการหมุนของโลก เรียกว่าลัคนาจรไป เมื่อจรไปบรรจบครบรอบที่เดิมก็เป็นห้วงเวลาหนึ่งวันพอดี ดังนั้นลัคนาจรก็คือเส้นเมอริเดียนจร เมื่อจรไประยะ ๑๒ ราศี ใน ๒๔ ชั่วโมง ราศีหนึ่งก็จะตก ๒ ชั่วโมงพอดี
        ตามคติโบราณได้นำความรู้อันเป็นเกณฑ์คำนวณมาจากการวัดเงาแดด โดยกำหนดว่า เมื่อดวงอาทิตย์โคจรไปถึงลาดทางที่สูงสุดทางฝ่ายเหนือ เงาแดดตรงหลักในที่นั้นเมื่อเวลาเที่ยงวันจะไม่มีหรือเป็นศูนย์ เวลานั้นเรียกว่า อายันตรสงกรานต์เหนือ หลังจากนั้นดวงอาทิตย์จะต้องถอยกลับมาทางฝ่ายใต้ ลาดทางที่ถอยนี้ ทางภูมิศาสตร์เรียกว่าเส้นทรอปิคออฟ แคนเซอร์ ซึ่งเป็นเส้นที่แบ่งฤดูกาลหนาวร้อนเจือกัน เป็นฝ่ายเหนือ และฤดูร้อนเป็นฝ่ายใต้ สำหรับซีกโลกเหนือ
ถ้าจะพูดถึงปรากฏการณ์ในท้องฟ้า ดวงอาทิตย์โคจรถึงราศีกรกฏ คือ ดาวปู หรือปุษยฤกษ์ แล้วถอยจากฤกษ์นี้ลงทางใต้ ซึ่งจะตกในวันที่ ๒๒ มิถุนายน เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ราศีเมถุนได้ประมาณ ๑๐ วัน ตามปฏิทินโหรไทย เมื่อดวงอาทิตย์ถอยจากเหนือแล้ว เงาของหลักก็จะค่อยๆ ยาวออกไปทางทิศเหนือเมื่อเวลาเที่ยงวัน วันละน้อย ๆ จนยาวได้ประมาณเท่าความยาว ๑๕ เม็ดข้าวเปลือก เรียกว่า ๑๕ พืช หรือ ๑๕ เพ็ชนาที หรือเท่ากับ ๑ รอยเท้า เรียกว่าบาท เมื่อเงาของดวงอาทิตย์ยาวออกไปได้ ๑ บาท แสดงว่าดวงอาทิตย์โคจรไปได้ ๑ ราศี เงายาวออกไปได้ ๖ รอยเท้าเป็นเวลา ๖ เดือน จากนั้นก็เริ่มหดสั้นจนเป็นศูนย์อีก เป็นเวลา ๖ เดือน รวม ๑ รอบ เท่ากับ ๑ ปี เป็นระยะทาง ๑๒ รอยเท้า เท่ากับดวงอาทิตย์โคจรไปได้ ๑๒ ราศี
        เวลาเงาที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งยาวขึ้น และสั้นเข้าได้ ๑ รอยเท้านั้น ย่อมเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยกว่ากันไม่ได้ลงตัวอยู่ที่ ๓๐ วันเสมอไป
เมื่อย่อระยะทางในเวลา ๑ ปี มาคิดเป็นระยะทางในเวลา ๑ วัน โลกหมุนรอบตัวเอง ๑ วัน พร้อมกับโคจรเคลื่อนที่ไปประมาณ ๑ องศา การแนวทางโคจรจึงเป็นวงรี ดังนั้นจึงนำเอา ๖๐ มหานาที ซึ่งเป็นเกณฑ์ ๑ วันในครั้งกระนั้นมาคิดเฉลี่ย ได้เวลาในราศีมีนกับราศีเมษ ราศีละ ๕ มหานาที ราศีพฤกษภ กับราศีกุมภ์ ราศีละ ๔ มหานาที ราศีเมถุนกับราศีมังกร ราศีละ ๓ มหานาที ราศีกรกฏกับราศีธนู ราศีละ ๕ มหานาที ราศีสิงห์กับราศี พฤศจิก ราศีละ ๖ มหานาที ราศีกันย์และราศีตุลย ราศีละ ๗ มหานาที เกณฑ์ดังกล่าวนี้เรียกว่า อันโตนาที
        การวางลัคนาให้คิดเวลาเกิดตั้งแต่อนาคตอาทิตย์อุทัยไปจนถึงเวลาที่เกิด แล้วเอาเวลาอนาคตอาทิตย์อุทัยลบออกเสียก่อน จากนั้นเอาเวลาตามอันโตนาทีในราศีข้างหน้าลบต่อไปโดยลำดับ เมื่อลบไม่ได้ในราศีใด ลัคนาก็จะตกอยู่ในราศีนั้น
        ถ้าอธิบายตามความหมายบนพื้นโลกแล้ว เส้นเมอริเดียนที่อยู่ตรงกับดวงอาทิตย์เมื่อเวลาอาทิตย์อุทัยนั้น เมื่อเคลื่อนที่ผ่านลาดทางของดวงอาทิตย์ที่เรียกว่า อีคลิปติค อยู่ในเวลาอันโตนาทีของราศีใด ลัคนาก็จะอยู่ในราศีนั้น ดาวพระเคราะห์ดวงใดที่เห็นอยู่ตรงราศีใด ณ เวลาตกฟาก ก็จะเป็นที่อยู่ของดาวพระเคราะห์ดวงนั้นในดวงชาตาไปตลอดชีวิต
       การกระทำกิจการใด ๆ ก็ดี จะถือเอาเวลาเริ่มต้นของกิจการนั้นเป็นลัคนาของกิจการนั้น ๆ และมีความสัมพันธ์กับดวงชาตากำเนิดของผู้เป็นเจ้าของกิจการนั้น ๆ ถ้าดวงชาตากำเนิดให้ร้ายแต่ดวงชาตาการงาน หรือดวงชาตาการงานให้ร้ายแก่ดวงชาตากำเนิด ก็จะเกิดความผลเสียแก่กิจการนั้น ๆ และผู้ทำกิจการนั้น ๆ ด้วย ดังนั้นจึงให้วางดวงชาตากำเนิดไว้เป็นหลักของดวงกิจการก่อน เมื่อการโคจรของดาวพระเคราะห์มาเป็นผลดีต่อดวงชาตากำเนิดแล้ว ก็จะจัดวางลัคนาของกิจการนั้น ๆ ให้เป็นโยคแก่ชาตาเดิม

อันโตนาที
          
มื่อคิดเอาระยะการโคจรของดวงอาทิตย์โคจรรอบจักรราศีเป็นเวลา ๑ ปี มาเทียบส่วนกับเวลา ซึ่งถ้าอาทิตย์โคจรในวันเดียวครบรอบจักรราศีแล้ว จะได้เวลาออกมาเท่านั้น ๆ นาฑิกา จำนวนนาฑิกาที่เทียบส่วนโคจรของดวงอาทิตย์ ในราศีหนึ่ง ๆ เรียกว่า อันโตนาที เป็นเกณฑ์ที่ต้องใช้มากที่สุดในเรื่องโหราศาสตร์ นาฑิกาหนึ่งเท่ากับ ๒๔ นาที ดังนั้นเมื่อเอา ๒๔ คูณนาฑิกา จึงได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนนาที

การวางลัคนาผูกดวงชาตากำเนิด
           ดวงชาตากำเนิด หมายถึงแผนที่ของดาวนพเคราะห์ ซึ่งสถิตอยู่ตามจักรราศีในขณะที่เจ้าชาตาเกิดเรียกว่า เวลาตกฟาก เวลาตกฟากนี้เป็นหัวใจของการผูกดวงชาตากำเนิด เป็นตัวตั้งในการสมผุสดาวพระเคราะห์ทุกดวง และตัวลัคนาเอง เวลาตกฟากยังเป็นจุดกำเนิดของลัคนา ซึ่งเป็นประธานของดวงชาตากำเนิด ดังนั้นเวลาตกฟาก จะต้องเป็นเวลาที่ถูกต้องตรงตามตำบลที่แท้จริงด้วย เวลาที่ใช้มีอยู่สามประการด้วยกันคือ
      เวลาสมมุติของตำบลที่ เป็นเวลาตามนาฬิกา ซึ่งอาจไม่ตรงตามเวลาของตำบลที่เป็นเวลาที่ใช้ในเขตพื้นที่กว้าง ๆ จะได้สดวกแก่การใช้ สำหรับประเทศไทยใช้เวลา ๗ ชั่วโมง ในเส้นแวง ๑๐๕ องศาตะวันออกจากเมืองกรีนิชของอังกฤษ ซึ่ง ณ จุดนี้จะตรงกับเมืองไซ่ง่อนของเวียดนาม แต่ความจริงเวลาของประเทศไทยเราถือพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) ที่กรุงเทพ ฯ เป็นศูนย์กลางของประเทศ ถ้าเทียบกับเวลาที่เมืองกรีนิช จะต่างกันเป็นเวลา ๖ ชั่วโมง ๔๑ นาที ๕๗.๙ วินาที ในเส้นแวง ๑๐๐ องศา ๒๙ ลิบดา ๒๘.๕ พิลิบดาตะวันออก ซึ่งเร็วกว่าเวลาจริงอยู่ ๑๘ นาที ๒.๑ วินาที
       เวลาจริงของตำบลที่ จะต้องมีตัวแก้ไปทุกท้องที่ ตามเส้นแวงของตำบลนั้น ๆ โดยเอาค่าของเส้นแวงมาคำนวณเป็นเวลา แล้วไปเปรียบเทียบกับเวลาที่ไซ่ง่อนคือ ๗ ชั่วโมงต่างจากเวลาที่กรีนิช
       เวลาจริงของดวงอาทิตย์ เวลาจริงของตำบลที่ก็ยังเป็นเวลาสมมุติอยู่คือ สมมุติว่าดวงอาทิตย์เดินตรงคงที่อยู่ที่เส้นศูนย์สูตร แต่ความจริงดวงอาทิตย์มิได้อยู่ตรงเส้นศูนย์สูตรตลอดเวลา แต่จะเปลี่ยนเส้นทางไปตามฤดูกาล (การคำนวณเราสมมติว่า ดวงอาทิตย์เดินโลกอยู่กับที่ หรือจะให้โลกเดินดวงอาทิตย์อยู่กับที่ก็เหมือนกัน) ทางดาราศาสตร์เรียก เดคลิเนชั่นเหนือ และเดคลิเนชั่นใต้ ทางโหราศาสตร์เรียกว่าดวงอาทิตย์ซัดเหนือ หรือซัดใต้ เมื่อดวงอาทิตย์ซัดเหนือ จะมีเวลากลางวันยาวกว่ากลางคืน และเมื่อดวงอาทิตย์ซัดใต้ จะมีเวลากลางวันน้อยกว่าเวลากลางคืน ในวันที่ ๒๒ มิถุนายน เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ซัดเหนือมากที่สุด คือ อยู่ที่เส้นรุ้ง ๒๓ องศาเหนือ กลางวันจะยาวที่สุด และกลางคืนจะสั้นที่สุดสำหรับประเทศไทย และพื้นที่ที่อยู่ในซีกโลกเหนือ จากนั้นก็จะเริ่มโคจรลงทางใต้จนถึง วันที่ ๒๒ ธันวาคม ดวงอาทิตย์จะซัดใต้มากที่สุดคือ อยู่ที่เส้นรุ้ง ๒๓ องศาใต้ กลางวันจะสั้นที่สุด และกลางคืนจะยาวที่สุด สำหรับประเทศไทย และพื้นที่ในซีกโลกเหนือ
       ฉะนั้นเมื่อต้องการเวลาจริง จึงต้องคำนวณหาสมผุสดวงอาทิตย์ก่อนแล้วจึงคำนวณหามุมเวลา คือเวลาจริงของดวงอาทิตย์อีกชั้นหนึ่ง มุมเวลาคือมุมระหว่างจุดอาทิตย์อุทัย ถึงจุดที่ดวงอาทิตย์อยู่ในเวลาตกฟากของเจ้าของชาตา
      ดังนั้น การที่จะวางลัคนาได้ถูกต้อง จะต้องมีข้อมูลสามประการคือ ต้องรู้ตำบลที่เจ้าชาตาเกิด ต้องรู้เวลาจริงของตำบลนั้น ๆ และต้องรู้สมผุสดวงอาทิตย์ในเวลาเกิดของเจ้าของชาตา


      ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ เพื่อเสริมดวงชะตาด้าน การงาน การเงิน ความรัก ...คลิกที่นี่ครับ


เว็บมาสเตอร์/ผู้ดูแลเว็บไซต์/ภารโรงเว็บ :  สุขี สิงห์บรบือ (มหาแซม)
ที่อยู่/ที่ทำงาน (office) หากต้องการมาพบผม :  ณ ไร่มหาแซม (เถียงนาน้อยกลางป่า) ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม 48160  คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ ที่ตั้ง/ที่ทำการเว็บไซต์
ที่อยู่สำหรับส่งจดหมาย/เอกสาร/ไปรษณีย์ :
 ตู้ ป.ณ.1 อ.ปลาปาก จ.นครพนม 48160
เบอร์โทรศัพท์ : 089-9405715 (โทรมาเวลาทำการ 09.00-16.00 เท่านั้น ตอนกลางคืนเป็นเวลาพักไม่รับโทรศัพท์ครับ เพราะกลางวันทำงานเต็มที่ทั้งวันแล้ว)    
ส่ง
sms :
086-2344415 (ส่ง sms เบอร์นี้ตลอด 24 ช.ม.)   หรือ FAX : 042-589224 (FAX Auto 24 Hours)   
E-mail :  computersam@hotmail.com
www.mahamodo.com

ประวัติผู้ดูแลเว็บ


สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 www.mahamodo.com ห้ามลอกเลียนไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดของเว็บไซต์นี้ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ
นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น
ออกแบบ/ควบคุมดูแล/
บริหารัดการ เว็บไซต์ทั้งหมด โดย  มหาแซม
ข้อมูลในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์จากโปรแกรมมหาหมอดู
โดย มหาแซม
สนใจสนลงโฆษณาคลิกที่นี่


ติดต่อสอบถามที่เบอร์โทรศัพท์  08-9940-5715 ส่ง sms 08-6234-4415, ส่ง FAX 042-589224 (FAX Auto 24 Hours)
(กรุณาอย่าโทรศัพท์มาตอนกลางคืนนะครับผม หากต้องการติดต่อตอนกลางคืนรบกวนส่ง sms มาที่ 086-2344415 แทนการโทรศัพท์นะครับ)
ต้องขออภัยด้วยนะครับ ที่ไม่สะดวกคุยโทรศัพท์นาน งานเยอะจริงๆ ครับ 

ที่อยู่/ที่ทำงาน (office) หากต้องการมาพบผม :  ณ ไร่มหาแซม (เถียงนาน้อยกลางป่า) เลขที่ 172 ม.2 ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม 48160
ที่อยู่สำหรับส่งจดหมาย/เอกสาร/ไปรษณีย์ :
 ตู้ ป.ณ.1 อ.ปลาปาก จ.นครพนม 48160
E-mail :  computersam@hotmail.com 
©Copyright  2002-2005 www.mahamodo.com   All rights reserved.

  ::::



© All rights reserved 2002