พุทธสุภาษิต หมวดบุคคล มีทั้งหมด 219 บทดังนี้ 1. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ส่วนผู้ใด ถึงจะตกแต่งกาย สวมใส่อาภรณ์ แต่หากประพฤติชอบ เป็นผู้สงบ ฝึกอบรมตนแน่วแน่ เป็นผู้ประพฤติธรรมอันประเสริฐ เลิกละการเบียดเบียนปวงสัตว์ทั้งหมดแล้ว ผู้นั้นแล จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ เป็นสมณะ หรือ เป็นภิกษุ ก็ได้ทั้งสิ้น 2. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja มิใช่การประพฤติตนเป็นชีเปลือย มิใช่การเกล้าผมทรงชฎา มิใช่การบำเพ็ญตบะ นอนในโคลนตม มิใช้การอดอาหาร มิใช่การนอนกับดิน มิใช่การเอาฝุ่นทาตัว มิใช่การตั้งท่านั่งดอก ที่จะทำคนให้บริสุทธิ์ได้ ในเมื่อความสงสัยยังไม่สิ้น 3. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดใช้ทรัพย์จำนวนพันประกอบพิธีบูชาทุกเดือน สม่ำเสมอ ตลอดเวลาร้อยปี การบูชานั้นจะมีค่ามากมายอะไร การยกบูชาบุคคลที่อบรมตนแล้ว คนหนึ่งแม้เพียงครู่เดียวประเสริฐกว่า 4. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนนั่งนิ่ง เขาก็นินทา คนพูดมาก เขาก็นินทา แม้แต่คนพูดพอประมาณ เขาก็นินทา คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก 5. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คฤหัสถ์ชาวบ้าน เกียจคร้าน ไม่ดี บรรพชิตไม่สำรวม ไม่ดี ผู้ครองแผ่นดินไม่ใคร่ครวญก่อนทำ ไม่ดี บัณฑิตมักโกรธ ไม่ดี 6. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ครองเรือนขยัน ดีข้อหนึ่ง มีโภคทรัพย์แล้วแบ่งปัน ดีข้อสอง ถึงทีได้ผลสมหมาย ไม่มัวเมา ดีข้อสาม ถึงคราวสูญเสียประโยชน์ ไม่หมดกำลังใจ ดีครบสี่ 7. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ขุมกำลังของคนพาล คือการจ้องหาโทษของคนอื่น ขุมกำลังของบัณฑิต คือการไตร่ตรองโดยพินิจ 8. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เมื่อเกิดเหตุร้ายแรง ย่อมต้องการคนกล้าหาญ เมื่อเกิดข่าวตื่นเต้น ย่อมต้องการคนหนักแน่น เมื่อมีข้าวน้ำบริบูรณ์ ย่อมต้องการคนที่รัก เมื่อเกิดเรื่องราวลึกซึ้ง ย่อมต้องการบัณฑิต 9. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดมีจิตคุ้มครองแล้ว ฟังคำสอนของพระชินเจ้า ผู้นั้นชื่อว่าให้อาสวะทั้งปวงสิ้นไป ทำให้แจ้งซึ่งอกุปปธรรม, บรรลุความสงบอย่างยิ่ง ไม่มีอาสวะ ย่อมดับสนิท 10. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนผู้ตื่นขึ้นแล้ว ย่อมไม่เห็นอารมณ์ อันประจวบด้วยความฝันฉันใด คนผู้อยู่ ย่อมไม่เห็นชน อันตนรักทำกาละล่วงไปแล้วฉันนั้น 11. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ปราศจากราคะ และกำจัดโทสะได้แล้วนั้น พึงเจริญเมตตาจิตไม่มีประมาณ ผู้นั้น งดอาชญาในสัตว์ทั้งปวงแล้ว ไม่ถูกติเตียน ย่อมเข้าถึงสถานอันประเสริฐ 12. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใด ระมัดระวังอินทรีย์เหล่านั้น รู้จักอินทรีย์ 6 ตั้งอยู่ในธรรม ยินดีในความซื่อตรง และ ความอ่อนโยน ล่วงกิเลสเครื่องข้องเสียได้ ละทุกข์ได้ทั้งหมด เที่ยวไป, ผู้นั้น เป็นธีรชน ย่อมไม่ติดในสิ่งที่เห็นแล้ว และ ได้ฟังแล้ว 13. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ติดในส่งที่ยึดถือว่าของเรา ย่อมละความโศกเศร้า ความรำพัน และ ความตระหนี่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น มุนีทั้งหลายผู้เห็นความปลอดภัย จึงละความยึดถือไปได้ 14. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดพิจารณาเห็นความยิ่งและหย่อนในโลกแล้ว ไม่มีความหวั่นไหวในอารมณ์ไหน ๆ ในโลก, เรากล่าวว่า ผู้นั้นเป็นผู้สงบ ไม่มีกิเลสดุจควันไฟ ไม่มีทุกข์ ปราศจากตัณหา ข้ามชาติชราได้ 15. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บุคคลไม่ควรทำบาปซึ่งเป็นเครื่องกังวลในโลกทั้งปวง ด้วยกาย วาจา หรือด้วยใจ มีสติสัมปชัญญะ ละกามทั้งหลายได้แล้ว ไม่ควรเสพทุกข์อันประกอบด้วยสิ่งที่ไร้ประโยชน์ 16. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีปัญญานั้น ย่อมเล็งเห็นกามคุณ เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นโรค, ผู้เห็นอย่างนี้ ย่อมละความพอใจในกาม อันเป็นทุกข์ เป็นภัยใหญ่ได้ 17. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนใดมีท้องพร่อง ย่อมทนความหิวได้ ผู้ฝึกตน มีความเพียร กินดื่มพอประมาณ ไม่ทำบาป เพราะอาหาร ท่านเรียกคนนั้นแล ว่าสมณะในโลก 18. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เมื่อใดบัณฑิตรู้ว่าชรา และ มรณะเป็นทุกข์ กำหนดรู้ทุกข์ ซึ่งเป็นที่อาศัยแห่งปุถุขน มีสติเพ่งพินิจอยู่ เมื่อนั้น ย่อมไม่ประสบความยินดีที่ยิ่งกว่านั้น 19. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดปราศจากการติดในกามทั้งปวง ล่วงฌานอื่นได้แล้ว อาศัยอากิญจัญญายตนฌาน น้อมใจไปในสัญญาวิโมกข์อันประเสริฐ ผู้นั้นจะพึงอยู่ในอากิญจัญญานตนฌานนั้น ไม่มีเสื่อม 20. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ไม่ละโมภ ไม่อำพราง ไม่กระหาย ไม่ลบหลู่ ขจัดโมหะ ดุจน้ำฝาดแล้ว ไม่มีความมุ่งหวัง ครอบงำโลกทั้งหมด ควรเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด 21. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เราคิดค้นหาทุกทิศแล้ว ก็ไม่พบผู้อื่นซึ่งเป็นที่รักยิ่งกว่าตนในที่ไหน ๆ , ถึงผู้อื่นก็มีตนเป็นที่รักมากอย่างนี้ เพราะฉะนั้นผู้รักตนจึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น 22. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ฉลาดละเครื่องกั้นจิต 5 ประการ กำจัดอุปกิเลสทั้งหมด ตัดรักและชังแล้ว อันตัณหา และทิฏฐิอาศัยไม่ได้ พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรดฉะนั้น 23. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิต ย่อมไม่ประพฤติกรรมชั่ว เพราะเหตุแห่งสุขเพื่อตน, สัตบุรุษอันทุกข์ถูกต้องแม้พลาดพลั้งไป ก็ไม่ยอมละธรรม เพราะฉันทาคติ และ โทสาคติ 24. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เพราะนักปราชญ์มีสติตั้งมั่นในธรรมวินัยนี้ ไม่เสพกามและบาป พึงละกามพร้อมทั้งทุกข์ได้ ท่านจึงกล่าวบุคคลนั้นว่า ผู้ไปทวนกระแส 25. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตละราคะ โทสะ และ โมหะ ทำลายสังโยชน์ได้แล้ว ย่อมไม่หวาดเสียวในการสิ้นชีวิต, พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น 26. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja โจรผู้มีความชั่ว ถูกเขาจับได้ซึ่งหน้า ย่อมเดือนร้อนเพราะกรรมของตนฉันใด ประชาชนผู้มีความชั่ว ละไปแล้ว ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตนในโลกหน้าฉันนั้น 27. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนบางจำพวกเหล่าใดไม่สำรวมในกาม ยังไม่ปราศจากราคะ เป็นผู้บริโภคกามในโลกนี้, คนเหล่านั้นถูกตัณหาครอบงำ ลอยไปตามกระแส (ตัณหา) ต้องเป็นผู้เข้าถึงชาติชราร่ำไป 28. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ภิกษุไม่ควรหวั่นไหวเพราะนินทา ได้รับสรรเสริญ ก็ไม่ควรเหิมใจ พึงบรรเทาความโลภกับความตระหนี่ ความโกรธ และ ความส่อเสียดเสีย 29. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดรู้ธรรมของอสัตบุรุษ และ ของสัตบุรุษ ทั้งภายใน ทั้งภายนอก มีเทวดา และ มนุษย์บูชาในโลกทั้งปวง ผู้นั้นจึงล่วงข่ายคือเครื่องข้องได้ และ เป็นมุนี 30. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดละมานะ มีตนตั้งมั่นดีแล้ว มีใจดี หลุดพ้นในที่ทั้งปวง อยู่ในป่าคนเดียว เป็นผู้ไม่ประมาท, ผู้นั้นพึงข้ามฝั่งแห่งแดนมฤตยู 31. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ อยู่อย่างนี้ ความกลัว ความครั้นคร้าม ขนพองสยองเกล้าจักไม่มี 32. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ฉลาดหลักแหลม แสดงเหตุและไม่ใช้เหตุได้แจ่มแจ้ง และ คาดเห็นผลประจักษ์ ย่อมเปลี้องตน (จากทุกข์) ได้ฉับพลัน อย่ากลัวเลย เขาจักกลับมาได้ 33. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ติดใจในการบริโภคกาม ยินดีหมกมุ่นในกามทั้งหลาย ย่อมไม่รู้สึกซึ่งความถลำตัว เหมือนปลาถลันเข้าลอบที่เขาดักไว้ไม่รู้สึกตัว ฉะนั้น 34. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja นรชนใดไม่เชื่อ (ตามเขาว่า) รู้จักพระนิพพาน อันอะไร ๆ ทำไม่ได้ ตัดเงื่อนต่อได้ มีโอกาสอันขจัดแล้ว และ คายความหวังแล้ว, ผู้นั้นแล เป็นบุรุษสูงสุด 35. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดไม่มีความยึดถือว่าของเรา ในนามรูปโดยประการทั้งปวง และ ผู้ใดย่อมไม่เศร้าโศกเพราะนามรูปที่ไม่มีอยู่, ผู้นั้นแลท่านเรียกว่าภิกษุ 36. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ดับกิเลสได้แล้วหมดความหวั่นไหวนั้นรู้ที่สุด ทั้ง 2 แล้ว ย่อมไม่ติดในท่ามกลางด้วยปัญญา, เราเรียกผู้นั้นว่าเป็นมหาบุรุษ ผู้นั้นละตัณหา เครื่องเย็บร้อยใจในโลกนี้ได้แล้ว 37. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร จัณจาล และ คนงานชั้นต่ำทั้งปวง สงบเสงี่ยมแล้ว ฝึกตนแล้ว ก็ปรินิพพานเหมือนกันหมด 38. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บุคคลถึงความสำเร็จแล้ว (พระอรหันตผล) ไม่สะดุ้ง ปราศจากตัณหา ไม่มีกิเลศเครื่องยั่วยวน ตัดลูกศรอันจะนำไปสู่ภพได้แล้ว ร่างกายนี้จึงชื่อว่ามีในที่สุด 39. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja การบำเพ็ญประโยชน์โดยไม่ฉลาดในประโยชน์ จะนำความสุขมาให้ไม่ได้เลย ผู้มีปัญญาทราม ย่อมพร่าประโยชน์ ดุจลิงเฝ้าสวนฉะนั้น 40. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดทำ ราคะ โทสะ มานะ และ มักขะ ให้ตกไป เหมือนทำให้เมล็ดผักกาดตกจากปลายเหล็กแหลม, เราเรียกผู้นั้นว่าพราหมณ์ 41. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ประกอบตนในสิ่งที่ไม่ควรประกอบ และ ไม่ประกอบตนในสิ่งที่ควรประกอบ ละประโยชน์เสียถือตามชอบใจ ย่อมเป็นที่กระหยิ่มต่อผู้ประกอบตนเนือง ๆ 42. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีปัญญาเหล่าใด ขวนขวายในฌาน ยินดีในความสงบ อันเกิดจากเนกขัมมะ เทวดาทั้งหลายก็พอใจ ต่อผู้มีปัญญา ผู้รู้ดีแล้ว และ ผู้มีสติเหล่านั้น 43. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บุคคล รู้แจ้งธรรมะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว จากผู้ใด พึงนอบน้อมผู้นั้นโดยเคารพ เหมือนพราหมณ์นับถือการบูชาไฟ ฉะนั้น 44. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สิ่งเดียวกันนั่นแหละดีสำหรับคนหนึ่ง แต่เสียสำหรับอีกคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นสิ่งใด ๆ มิใช่ว่าจะดีไปทั้งหมด และ ก็มิใช่จะเสียไปทั้งหมด 45. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนจะชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ เพียงเพราะมีผมหงอกก็หาไม่ ถึงวัยของเขาจะหง่อม ก็เรียกว่าแก่เปล่า 46. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนที่ถูกนินทาอย่างเดียว หรือ ได้รับการสรรเสริญอย่างเดียว ไม่เคยมีมา แล้วจักไม่มีต่อไป ถึงในขณะนี้ก็ไม่มี 47. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใด วิญญูชนพิจารณาดูอยู่ทุกวัน ๆ แล้วกล่าวสรรเสริญ ผู้นั้น ใครเล่าจะควรติเตียนเขาได้ 48. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja แผ่นดินนี้ ไม่อาจทำให้เรียบเสมอกันทั้งหมด ได้ฉันใด มนุษย์ทั้งหลายจะทำให้เหมือนกันหมดทุกคนก็ไม่ได้ฉันนั้น 49. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เหตุอย่างหนึ่ง ทำให้คนหนึ่งได้รับการสรรเสริญ เหตุอย่างเดียวกันนั้น ทำให้อีกคนหนึ่งได้รับการนินทา 50. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนทรามปัญญาได้ยศแล้ว ย่อมประพฤติแต่การอันไม่เกิดคุณค่าแก่ตน ปฏิบัติแต่ในทางที่เบียดเบียน ทั้งตน และ คนอื่น 51. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พระอรหันต์ทั้งหลาย อยู่ในที่ใด คือบ้านก็ตาม ป่าก็ตาม ที่ลุ่มก็ตาม ที่ดอนก็ตาม ที่นั้นย่อมเป็นภูมิน่ารื่นรมย์ 52. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีสติย่อมหลีกออก ท่านไม่ยินดีในที่อยู่ ท่านย่อมละที่อยู่ได้ ดุจหงส์ละเปือกตมไปฉะนั้น 53. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สมณะภายนอกไม่มี, สังขารเที่ยงไม่มี, ความหวั่นไหวของพระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่มี, เหมือนรอยเท้าในอากาศ 54. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ไม่ระเริงในอารมณ์ที่ชอบใจ ไม่ประกอบในความดูหมิ่น เป็นผู้ละเอียดเฉียบแหลม ย่อมไม่เชื่อง่าย ไม่หน่ายแหนง 55. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja กามทั้งหลายมีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก บัณฑิตรู้ดังนี้แล้ว ไม่ใยดีในกามแม้เป็นทิพย์ 56. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดมีความสัตย์ มีธรรม มีความไม่เบียดเบียน มีความสำรวม และมีความข่มใจ ผู้นั้นแลชื่อว่าผู้มีปัญญา หมดมลทิน เขาเรียกท่านว่า เถระ 57. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja มารดาบิดา ท่านว่าเป็นพรหม เป็นบูรพาจารย์ เป็นที่นับถือของบุตร และเป็นผู้อนุเคราะห์บุตร 58. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีปัญญาเหล่าใด ประกอบด้วยศึล ยินดีในความสงบด้วยปัญญา ผู้มีปัญญาเหล่านั้น เว้นไกลจากความชั่วแล้ว ไม่ต้องเชื่อผู้อื่น 59. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ไปสู่แว้นแคว้น ตำบล หรือ เมืองหลวงใด ๆ ก็ตาม ย่อมมีผู้บูชาในที่ทั้งปวง 60. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความปรารถนาลามก ไม่ละอาย ไม่เอื้อเฟื้อ เพราะเหตุใด, เขาย่อมสร้างบาป เพราะเหตุนั้น เขาไปสู่อบายเพราะเหตุนั้น 61. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดมีสติเฉพาะหน้า เจริญเมตตาไม่มีประมาณ, สังโยชน์ของผู้เห็นความสิ้นแห่งอุปธินั้นย่อมเบาบาง 62. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดเห็นศีล ปัญญา และสุตะ ในตน, ผู้นั้นย่อมประพฤติประโยชน์ตน และ ผู้อื่นทั้ง 2 ฝ่าย 63. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ถูกมานะหลอกลวง เศร้าหมองอยู่ในสังขาร ถูกลาภและความเสื่อมย่ำยี ย่อมไม่ลุถึงสมาธิ 64. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษย่อมปรากฎได้ในที่ไกล เหมือนภูเขาหิมพานต์ อสัตบุรุษถึงนั่งอยู่ในที่นี้ก็ไม่ปรากฎ เหมือนกับลูกศรที่ยิงไปกลางคืน 65. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีปรีชาได้โภคะแล้ว ย่อมสงเคราะห์หมู่ญาติ, เพราะการสงเคราะห์นั้น เขาย่อมได้เกียรติ ละไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์ 66. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตขัดขวางโจรผู้นำของไป, ส่วนสมณะนำไปย่อมเป็นที่รัก, บัณฑิตย่อมยินดีต้อนรับสมณะผู้มาบ่อย ๆ 67. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเหล่าใด อันเทวทูตตักเตือนแล้วยังประมาทอยู่ คนเหล่านั้นเข้าถึงกายอันเลว ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน 68. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บุคคลเป็นคนเลวเพราะชาติก็หาไม่ เป็นผู้ประเสริฐเพราะชาติก็หาไม่ แต่เป็นคนเลวเพราะการกระทำ เป็นผู้ประเสริฐเพราะการกระทำ 69. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เมื่อสัตบุรุษให้สิ่งที่ให้ยาก ทำกรรมที่ทำได้ยาก, อสัตบุรุษย่อมทำตามไม่ได้ เพราะธรรมของสัตบุรุษ ยากทีอสัตบุรุษจะประพฤติตาม 70. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตไม่ศึกษา เพราะอยากได้ลาภ, ไม่ขุ่นเครือง เพราะเสื่อมลาภ, ไม่ยินดียินร้ายเพราะตัณหา และ ไม่ติดในรสทั้งหลาย 71. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้เป็นคนขัดเคืองเหนียวแน่น ปรารถนาลามก ตระหนี่ โอ้อวด ไม่ละอาย และ ไม่เกรงกลัวบาป พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นคนเลว 72. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น 73. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ท่านทั้งหลายจงดำเนินตามทางที่สร่างความเมา บรรเทาความโศก เปลื้องสงสาร เป็นที่สิ้นทุกข์ทั้งปวง โดยความเคารพ 74. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตกล่าวถึงผู้มีกายสะอาด มีวาจาสะอาด มีใจสะอาด ไม่มีอาสวะ ถึงพร้อมด้วยความสะอาดล้างบาปแล้ว ท่านว่าเป็นผู้สะอาด 75. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเหล่าใดเขลา มีปัญญาทราม มีความคิดเลว ถูกความหลงปกคลุม, คนเช่นนั้น ย่อมติดเครื่องผูกอันมารทอดไว้นั้น 76. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดไม่มีความอาลัย รู้แล้ว หาความสงสัยมิได้ เราเรียกผู้หยั่งลงสู่อมตะบรรลุประโยชน์แล้วนั้น ว่าเป็นพราหมณ์ 77. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเขลาคิดว่าเรามีบุตร เรามีทรัพย์ เขาจึงเดือนร้อน ที่แท้ตนของตนก็ไม่มี จะมีบุตร มีทรัพย์มาแต่ไหนเล่า 78. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ตั้งใจประพฤติตนเป็นคนโสด เขารู้กันว่าเป็นบัณฑิต, ส่วนคนโง่ฝักใฝ่ในเมถุน ย่อมเศร้าหมอง 79. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บุรุษจะเป็นบัณฑิตในที่ทั้งปวงก็หาไม่, แม้สตรีก็เป็นบัณฑิต มีปัญญาเฉียบแหลมในที่นั้น ๆ ได้เหมือนกัน 80. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บุคคลไม่ควรนิยมการกล่าวคำเท็จ ไม่ควรทำความเสน่หาในรูปโฉม ควรกำหนดรู้มานะ และ ประพฤติงดเว้นจากความผลุนผลัน 81. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตทั้งหลายกล่าวถึงผู้นิ่งทางกาย นิ่งทางวาจา นิ่งทางใจ ไม่มีอาสวะ ถึงพร้อมด้วยปัญญา ผู้ละสิ่งทั้งปวงได้ ว่าเป็นมุนี 82. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดมักโกรธ ผูกโกรธไว้ ลบหลู่เขาด้วยความชั่ว มีความเห็นวิบัติ มีมายา พึงรู้ว่าคนนั้นเป็นคนเลว 83. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja นรชนผู้กำหนัดในกาม ยินดีในกาม หมกมุ่นในกาม ทำบาปทั้งหลาย ย่อมเข้าถึงทุคคติ 84. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ราคะ โทสะ และอวิชชา อันผู้ใดหลุดพ้นแล้ว, ผู้นั้นเป็นผู้คงที่ มีสายล่ามขาดแล้ว ไม่มีเครื่องผูก ย่อมไม่ติดในที่นั้น 85. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนไม่มีโชค มีศิลป์หรือไม่มีศิลป์ก็ตาม ขวนขวายรวบรวมทรัพย์ใดไว้ได้เป็นอันมาก ส่วนคนมีโชค ย่อมบริโภคทรัพย์เหล่านั้น 86. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ไม่สันโดษด้วยภริยาของตน ย่อมซุกซนในหญิงแพศยา และประทุษร้ายภริยาของคนอื่น นั่นเป็นเหตุแห่งความเสื่อม 87. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความโกรธเกิดขึ้นแก่คนโง่เขลาไม่รู้แจ้ง เพราะความแข่งดี เขาย่อมถูกความโกรธนั้นแลเผา 88. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ที่มารดาบิดาเลี้ยงมาโดยยากอย่างนี้ ไม่บำรุงมารดาบิดา ประพฤติผิดในมารดาบิดาย่อมเข้าถึงนรก 89. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ถ้าเป็นผู้มีอินทรีย์สมบูรณ์ สงบและยินดีในทางสงบแล้ว จึงชื่อว่าชนะมาร พร้อมทั้งพาหนะ ทรงไว้ซึ่งกายอันมีในที่สุด 90. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดตัดความข้องทั้งปวงแล้ว บรรเทาความกระวนกระวายใจได้, ผู้นั้นถึงความสงบใจ เป็นผู้สงบระงับ ย่อมอยู่เป็นสุข 91. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja มุนีเหล่าใด เป็นผู้ไม่เบียดเบียน สำรวมทางกายเป็นนิตย์ มุนีเหล่านั้น ย่อมไปสู่สถานไม่จุติ ที่ไปแล้วไม่ต้องเศร้าโศก 92. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ไม่โกรธ ฝึกตนแล้ว เป็นอยู่อย่างสม่ำเสมอ หลุดพ้นเพราะรู้ชอบ สงบระงับ และ คงที่ จะมีความโกรธมาแต่ไหน 93. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดไม่ฆ่าเอง ไม่ให้ผู้อื่นฆ่า ไม่ชนะเอง ไม่ให้ผู้อื่นชนะ ผู้นั้นชื่อว่ามีเมตตาต่อสัตว์ทั้งปวง และ ไม่มีเวรกับใคร ๆ 94. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดยกย่องตน และดูหมิ่นผู้อื่น เป็นคนเลว เพราะการถือตัวเอง พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นคนเลว 95. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ใคร่ครวญติ คนฉลาดจะประพฤติไม่ขาด ตั้งมั่นด้วยปัญญาและศีล ประดุจแท่งทองชมพูนุท 96. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดไม่โกรธ ไม่ผูกโกรธ ไม่ลบหลู่ ถึงความหมดจด มีทิฏฐิสมบูรณ์ มีปัญญา พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นอริยะ 97. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดเลี้ยงมารดาบิดาโดยธรรม บัณฑิตย่อมสรรเสริญผู้นั้นในโลกนี้ เขาละไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์ 98. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้บรรลุธรรมอย่างสูงสุดไม่มีความต้องการในโลกทั้งปวง ย่อมไม่เศร้าโศกในความตาย เหมือนผู้ออกพ้นจากเรือนที่ถูกไฟใหม้ 99. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดช้าในการที่ควรช้า และ รีบในการที่ควรรีบ ผู้นั้นเป็นผู้ฉลาด ย่อมถึงสุข เพราะการจัดทำโดยแยบคาย 100. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ ด้วยกรรมดี ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น 101. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดรีบในกาลที่ควรช้า และ ช้าในกาลที่ควรรีบ ผู้นั้นเป็นคนเขลา ย่อมถึงทุกข์ เพราะการจัดทำโดยไม่แยบคาย 102. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดจักไม่ทำตามโอวาทที่ผู้รู้ได้บอกแล้ว ผู้นั้นจักถึงความย่อยยับ เหมือนพ่อค้า ถึงความย่อยยับเพราะพวกโจรสลัดฉะนั้น 103. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ชนเหล่าใดฉลาดในขนบธรรมเนียมโบราณ และประกอบด้วยจารีตประเพณีดี ชนเหล่านั้นย่อมไม่ไปสู่ทุคคติ 104. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดเป็นผู้เยือกเย็น ไม่มีอุปธิ ไม่ติดในกาม ผู้นั้นเป็นพราหมณ์ เป็นผู้ดับแล้ว อยู่เป็นสุขทุกเมื่อ 105. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ถ้าท่านกลัวทุกข์ ถ้าท่านไม่รักทุกข์ ก็อย่าทำบาปกรรมทั้งในที่แจ้ง ทั้งในที่ลับ 106. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ไม่พึงดูหมิ่นลาภของตน ไม่ควรเที่ยวปรารถนาลาภของผู้อื่น ภิกษุปรารถนาลาภของผู้อื่น ย่อมไม่บรรลุสมาธิ 107. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บุรุษจะเป็นบัณฑิตในทุกสถานก็หาไม่ สตรีคิดการได้ฉับไวก็เป็นบัณฑิต 108. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมรุ่งเรืองเหมือนไฟที่ส่องทางสว่าง 109. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตย่อมเว้นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ถือเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ 110. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนโง่รู้สึกว่าตนโง่ จะเป็นผู้ฉลาดเพราะเหตุนั้นได้บ้าง 111. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พระมหากษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐสุด 112. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พระราชาจงรักษาประชาราษฎร์ 113. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บรรดาบุตรทั้งหลาย บุตรผู้เชื่อฟังเป็นผู้ประเสริฐ 114. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญา ย่อมแนะนำในทางที่ควรแนะนำ 115. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนแล้วเป็นผู้ประเสริฐสุด 116. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษ ย่อมขจรไปทั่วทุกทิศ 117. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษย่อมปรากฏในที่ไกล เหมือนภูเขาหิมพานต์ 118. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษ ยินดีในการเกื้อกูลสัตว์ 119. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้กินคนเดียว ไม่ได้ความสุข 120. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สาธุชนย่อมหลุดพ้นเพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น 121. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja มารดาบิดาเป็นที่นับถือของบุตร 122. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีความดีจงรักษาความดีของตนไว้ 123. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญาทราม ย่อมประกอบการอันไม่ใช่ธุระ 124. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja อสัตบุรุษย่อมไปนรก 125. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ปราศจากทมะ และ สัจจะ ไม่ควรครองผ้ากาสาวะ 126. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษได้ตั้งมั่นในความสัตย์ที่เป็นอรรถและเป็นธรรม 127. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปราชญ์ได้โภคทรัพย์แล้ว ย่อมสงเคราะห์ญาติ 128. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja มารดาบิดาท่านว่าเป็นบูรพาจารย์ (ของบุตร) 129. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ภริยาผู้ฉลาด ย่อมนับถือสามี และ คนที่ควรเคารพทั้งปวง 130. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ท่านผู้เป็นที่พึ่ง ย่อมประกอบด้วยกรุณายิ่งใหญ่ 131. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja กลิ่นของสัตบุรุษย่อมหวนทวนลมได้ 132. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนแข็งกระด้างก็มีเวร 133. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ถ้าพระราชาเป็นผู้ทรงธรรม ราษฎรทั้งปวงก็เป็นสุข 134. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญาทราม ย่อมทำความประทุษร้าย 135. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ชื่อว่าบัณฑิตย่อมทำประโยชน์ให้สำเร็จได้แล 136. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มุ่งประโยชน์โดยไร้อุบาย ย่อมลำบากที่จะได้ประโยชน์นั้น 137. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พึงประพฤติให้พอเหมาะพอดี 138. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนฉลาด ย่อมละบาป 139. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนโง่ มีกำลังบริหารหมู่ย่อมไม่สำเร็จประโยชน์ 140. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บรรพชิตฆ่าผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เป็นสมณะเลย 141. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญา ย่อมไม่ประกอบในทางอันไม่ใช่ธุระ 142. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ถูกขอเมื่อไม่ให้สิ่งที่เขาขอ ย่อมไม่เป็นที่รักของผู้ขอ 143. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษไม่ปราศรัยเพราะใคร่กาม 144. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja มารดา บิดา ท่านว่าเป็นพรหมของบุตร 145. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้สงบระงับ ย่อมอยู่เป็นสุข 146. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษยินดีในการเกื้อกูลสัตว์ 147. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความสงัดของผู้สันโดษมีธรรมปรากฎ เห็นอยู่ นำสุขมาให้ 148. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พูดอย่างใด พึงทำอย่างนั้น 149. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญาทราม ย่อมแนะนำในทางที่ไม่ควรแนะนำ 150. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความสันโดษด้วยปัจจัยตามมีตามได้ นำสุขมาให้ 151. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปราชญ์ มีกำลังบริหารหมู่ให้ประโยชน์สำเร็จได้ 152. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บรรดาภริยาทั้งหลาย ภริยาผู้เชื่อฟังเป็นผู้ประเสริฐ 153. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า 154. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พึงตามรักษาความสัตย์ 155. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ประกอบด้วยทมะ และ สัจจะนั้นแล ควรครองผ้ากาสาวะ 156. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ฤษีทั้งหลาย มีสุภาษิตเป็นธงชัย 157. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja อสัตบุรุษ แม้นั่งอยู่ในที่นี้เองก็ไม่ปรากฎ เหมือนลูกศรที่ยิงไปกลางคืน 158. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ใดไม่พูดเป็นธรรม ผู้นั้นไม่ใช่สัตบุรุษ 159. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พระราชา เป็นประมุขของประชาชน 160. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนโง่ ไม่ควรเป็นผู้นำ 161. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สติจำเป็นในที่ทั้งปวง 162. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สติ เป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก 163. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้บูชา ย่อมได้รับการบูชา 164. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja อสัตบุรุษ ย่อมไปนรก 165. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สมณะ พึงเป็นสมณะที่ดี 166. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ได้สิ่งใด พึงพอใจในสิ่งนั้น 167. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้รักษา ควรมีสติรักษา 168. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สตรี เป็นสูงสุดแห่งสิ่งของทั้งหลาย 169. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja มีญาติมาก ๆ ยังประโยชน์ให้สำเร็จ 170. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนอ่อนแอ ก็ถูกเขาดูหมิ่น 171. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีสติ เป็นผู้ประเสริฐทุกวัน 172. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ไม่ควรดูหมิ่นลาภของตน 173. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ทำสักการะ ย่อมได้รับการสักการะ 174. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ไหว้ ย่อมได้รับการไหว้ตอบ 175. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สามีเป็นเครื่องปรากฎของสตรี 176. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีสติ ย่อมได้รับความสุข 177. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีปัญญาย่อมไม่ขอเลย 178. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนซื่อตรง ไม่พูดคลาดความจริง 179. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนผู้มีสติ มีความเจริญทุกเมื่อ 180. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความสันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง 181. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ไม่ควรขอสิ่งที่รู้ว่าเป็นที่รักของเขา 182. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญาทราม ย่อมพร่าประโยชน์เสีย 183. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สมณะ พึงตั้งอยู่ในภาวะแห่งสมณะ 184. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตมีความไม่เพ่งโทษผู้อื่นเป็นกำลัง 185. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บุตรเป็นที่ตั้งของมนุษย์ทั้งหลาย 186. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ขอย่อมไม่เป็นที่รักของผู้ถูกขอ 187. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้นลง 188. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สมณะในศาสนานี้ ไม่เป็นข้าศึกในโลก 189. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พระมหากษัตริย์ทรงเครื่องรบ ย่อมสง่า 190. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตย่อมรักษาอินทรีย์ 191. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนได้เกียรติ เพราะความสัตย์ 192. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja อ่อนไป ก็ถูกเขาหมิ่น แข็งไป ก็มีภัยเวร 193. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนจะประเสริฐ ก็เพราะการกระทำ และ ความประพฤติ 194. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja มีบางคนในโลกที่ยับยั้งการกระทำด้วยความละอาย 195. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ฟังมาก ต้องพิจารณาเป็นสำคัญ 196. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษ ไม่ปราศรัยเพราะความได้กาม 197. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja กวีเป็นที่อาศัยแห่งคาถาทั้งหลาย 198. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สัตบุรุษ ไม่มีในชุมนุมใด ชุมนุมนั้นไม่ชื่อว่าสภา 199. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พระราชา เป็นเครื่องปรากฏของแว่นแคว้น 200. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บรรพชิตผู้ไม่สำรวม ไม่ดี 201. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย 202. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความคุ้นเคย เป็นญาติอย่างยิ่ง 203. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บุรุษอาชาไนย หาได้ยาก 204. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja วิญญูชนตำหนิ ดีกว่าคนพาลสรรเสริญ 205. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พึงป้องกันภัยที่ยังมาไม่ถึง 206. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเมื่อรักแล้ว มักพูดมาก 207. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเมื่อโกรธแล้ว มักพูดมาก 208. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ถึงพร้อมด้วยองคคุณ หาได้ยาก 209. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนย่อมเป็นที่เกลียดชัง เพราะขอมาก 210. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความสัตย์นั่นแล ดีกว่ารสทั้งหลาย 211. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ควรทำแต่ความเจริญ อย่าเบียดเบียนผู้อื่น 212. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมมีความเคารพตนเอง 213. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สตรีเป็นมลทินของพรหมจรรย์ 214. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ชอบธรรม เป็นผู้เจริญ 215. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้เกลียดธรรม เป็นผู้เสื่อม 216. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พวกโจร เป็นเสนียดของโลก 217. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีความรู้ในทางที่ดี เป็นผู้เจริญ 218. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้มีความรู้ในทางที่ชั่ว เป็นผู้เสื่อม 219. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
|