พุทธสุภาษิต หมวดการศึกษา มีทั้งหมด 52 บทดังนี้ 1. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญา แม้มีปัญหา และถูกผูกมัดอยู่ พอพูดในเรื่องใดก็หลุดได้ในเรื่องนั้น 2. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja อันความรู้ ควรเรียนทุกอย่าง ไม่ว่าต่ำ สูง หรือปานกลาง ควรรู้ความหมาย เข้าใจทั้งหมด แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกอย่าง วันหนึ่งจะถึงเวลาที่ความรู้นั้นจะนำมาซึ่งประโยชน์ 3. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ถ้าไม่มีพุทธิปัญญา แลมิได้ศึกษาระเบียบวินัย คนทั้งหลายก็จะดำเนินชีวิต เหมือนดังกระบือบอดในกลางป่า 4. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความใฝ่เรียนสดับ เป็นเครื่องพัฒนาความรู้ ความรู้จากการเรียนสดับนั้น เป็นเครื่องพัฒนาปัญญา บุคคลที่อยู่ด้วยปัญญา ก็รู้จักสิ่งที่เป็นประโยชน์ ประโยชน์ที่รู้จักแล้วก็นำสุขมาให้ 5. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเราถึงมีชาติกำเนิดต่ำ แต่หากขยันหมั่นเพียรมีปัญญา ประกอบด้วยอาจาระและศีล ก็รุ่งเรืองได้เหมือนไฟถึงอยู่ในคืนมืด ก็สว่างไสว 6. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เล่าเรียนสำเร็จวิทยา ก็ย่อมได้เกียรติ แต่ฝึกอบรมด้วยจริยธรรมแล้วต่างหาก จึงจะสบสันติสุข 7. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนที่สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติ เป็นผู้ประเสริฐสุดทั้งในหมู่มนุษย์และเทวดา 8. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ขึ้นชื่อว่าศิลปวิทยา ไม่ว่าอย่างไหนๆให้ประโยชน์ได้ทั้งนั้น 9. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja อัสดร อาชาไนย สินธพ กุญชร และช้างหลวง ฝึกดีแล้ว ล้วนดีเลิศ แต่คนฝึกตนแล้ว ประเสริฐยิ่งกว่านั้น 10. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญาย่อมงอกงาม ดังพืชในนาที่งอกงามด้วยน้ำฝน 11. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บรรดาสิ่งที่โรยราร่วงหายทั้งหลาย ความไม่รู้หมดไปได้เป็นดีที่สุด 12. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พึงเป็นคนชอบไตร่ถามเพื่อหาความรู้ 13. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja การใฝ่ใจศึกษา เป็นเครื่องพัฒนาความรู้ 14. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความรู้ที่เรียนมา เป็นเครื่องพัฒนาปัญญา 15. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาช่วยให้รู้จักสิ่งที่เป็นประโยชน์ 16. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บรรดาสิ่งที่งอกงามขึ้นมา วิชาความรู้ประเสริฐสุด 17. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สิ่งที่ควรศึกษา ก็พึงศึกษาเถิด 18. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเกียจคร้าน ย่อมไม่พบทางแห่งปัญญา 19. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาเป็นเครื่องตรวจสอบสิ่งที่ได้เรียนมา 20. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บรรดาความอิ่มทั้งหลาย อิ่มปัญญาประเสริฐสุด 21. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปราชญ์กล่าวว่าปัญญา ประเสริฐสุด 22. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญา ถึงไร้ทรัพย์ ก็ยังดำรงอยู่ได้ 23. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สักวันหนึ่ง ความรู้ที่เรียนมาจะให้ประโยชน์ 24. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนไม่มีศิลปวิทยา เป็นอยู่ยาก 25. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บัณฑิตไม่ศึกษา เพราะอยากได้ลาภ 26. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja เมื่ออ่อนปัญญา ช่องทางวิบัติก็เกิดได้มหันต์ 27. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความไม่รู้ เป็นมลทินร้ายที่สุด 28. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ในหมู่มนุษย์ คนที่ประเสริฐ คือคนที่ฝึกแล้ว 29. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญาประเสริฐกว่า คนโง่ที่มียศ 30. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้รู้จักประโยชน์แล้ว ย่อมนำสุขมาให้ 31. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja พึงพินิจพิจารณาเรื่องราวโดยรอบคอบ 32. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญาเป็นเครื่องปกครองคน 33. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเรียนน้อย ปัญญาย่อมไม่พัฒนา 34. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเรียนน้อย แก่เปล่า เหมือนโคถึก 35. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา ปราชญ์กล่าวว่าประเสริฐสุด 36. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนเรียนน้อย เจริญแต่เนื้อหนังมังสา 37. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนมีปัญญา เมื่อถึงคราวตกทุกข์ ก็ยังหาสุขได้ 38. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ขึ้นชื่อว่าศิลปวิทยา ดีทั้งนั้น 39. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนไร้ปัญญา ไม่มีความพินิจพิจารณา 40. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญา 41. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนย่อมเห็นแจ้งเนื้อความอย่างเด่นชัดด้วยปัญญา 42. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา นั้นไม่มี 43. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนไม่พินิจพิจารณา เป็นคนไม่มีปัญญา 44. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja คนโง่ มักตกอยู่ในอำนาจแห่งมาร 45. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญา เป็นแสงสว่างในโลก 46. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญา เปรียบเสมือนเครื่องประดับแห่งตน 47. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ผู้ตั้งใจศึกษา ย่อมได้ปัญญา 48. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญานั่นแหละ ประเสริฐกว่าทรัพย์ 49. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ปัญญา ย่อมเกิดเพราะการฝึกฝน 50. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja สรรพวิทยา ควรเรียนรู้ให้หมด 51. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja บิดามารดาพึงให้บุตรเรียนศิลปวิทยา 52. fjrigjwwe9r0dhama_zone_supasit_bygroup:budvaja ความมีปัญญา ย่อมรู้ได้จากการสนทนา
|